World News

ตลาดเอเชียดิ่งตามวอลล์สตรีท เตือนความผันผวนเกาะติด

ตลาดหลักทรัพย์เอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ (14 พ.ค.) ตกอยู่ท่ามกลางแรงเทขาย เหมือนกับตลาดอื่นๆ ทั่วโลก หลังจากดัชนีหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) ทรุดลงอย่างหนัก ลดลงไปถึง 617.38 จุด หรือ 2.38% ที่ 25,324.99 จุด จากการที่จีนออกมาประกาศตอบโต้สหรัฐ ด้วยการจัดเก็บภาษีนำเข้า 25% ต่อสินค้าจากแดนอินทรีมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้

000 1313ZN

การเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่ง ยังตามมาด้วยคำเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีความเคลื่อนไหวมากกว่านี้ อาทิ การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และยังเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่สหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยังออกมาตอกย้ำว่า กำลังพิจารณาที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์

ภาวะเผชิญหน้าที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นตระหนกแพร่กระจายไปทั่วห้องค้าหุ้น ที่ดีลเลอร์ส่วนใหญ่แทบจะไม่มีความเชื่อมั่นมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้

ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง เป็นแกนนำขาลงของตลาดอื่นๆ ในเอเชีย ล่าสุดดิ่งลงไป 1.7% ที่ 28,067.49 จุด หลังในช่วงเปิดซื้อขาย ทรุดไป 2.10% หรือ 599.12 จุด ที่ 27,951.12. จุด ส่วนดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น ปิดซื้อขายช่วงเช้าลดลง 0.7% ที่ 21,036.92 จุด และตลาดเซี่ยงไฮ้ ของจีนลดลง 0.2% ที่ 2,896.92 จุด

เช่นเดียวกับตลาดออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ที่ร่วงลงไปมากกว่า 1% ส่วนฟิลิปปินส์ และจาการ์ตา ลดลงมา 1.6%

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความไม่แน่นอน และความรู้สึกด้านลบ มีแนวโน้มที่จะเกาะติดตลาดต่อไป โดยในระยะสั้นนั้น มีแนวโน้มว่า ตลาดจะตกอยู่ท่ามกลางความผันผวน และอาจมองเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และลดลง เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในระยะยาว

Avatar photo