COLUMNISTS

บทบาทของผู้นำองค์กรในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

Avatar photo
Head of Faculty สลิงชอท กรุ๊ป
2358

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน เป็นภาวะที่สะท้อนลักษณะของ VUCA World อย่างชัดเจน นั่นคือ มีสภาวะความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความซับซ้อน (Complexity) และความคลุมเครือ (Ambiguity)

ปรากฏการณ์ของ VUCA World กระทบกับทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ จากบทความในเดือนเมษายน 2019 ของ Harvard Business Review เปิดเผยว่า CEO กว่า 90% เชื่อว่าบริษัทของตนจะมีการเปลี่ยนแปลงในอีก 5 ปีข้างหน้า มากกว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามข้อมูลในเว็บไซต์ E-learning Industry ระบุว่า แม้ 61% ขององค์กรจะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อปี แต่มีองค์กรเพียง 17% เท่านั้นที่คิดว่าองค์กรของตนสามารถจัดการความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

city 3701799 geralt pixabay

จากสภาพการณ์ดังกล่าว ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับการที่ผู้นำขององค์กรช่วยให้พนักงานมีลักษณะของ “Agility” คือ มีความสามารถเรียนรู้ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะโลกธุรกิจกำลังเข้าสู่ยุคของ “Agile”

เนื้อหาของบทความของ Forbes เดือนมกราคม 2018 เน้นย้ำถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว ที่กระทบกับองค์กรในหลายประเภทธุรกิจ ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในกลุ่มของบริษัทด้านเทคโนโลยีเช่นในอดีต ซึ่งการทำงานแบบ Agile นั้นเป็นเสมือนการย่อโลก ลดความห่างในองค์กร เป็นการเชื่อมโยงคน สถานที่และเวลาเข้าด้วยกันเพื่อให้การทำงานเกิดความคล่องตัวเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีลักษณะเด่นโดยสรุป (www.Mckinsey.com) คือ

1. ร่วมกันกำหนดเป้าหมายความสำเร็จเพื่อเป็นทิศทางการทำงานคร่าว ๆ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

2. ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของทีมขนาดเล็กให้เป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยออกแบบองค์กรให้เป็นแนวราบ (Flat Structure) ให้พนักงานแต่ละคนได้รับบทบาทและอำนาจที่ชัดเจน ส่งเสริมการทำงานอย่างกระตือรือร้น และร่วมหาวิธีการเฉพาะของทีมในการส่งมอบผลลัพธ์ที่โดดเด่น

3. มีการตัดสินใจและสร้างวงจรการเรียนรู้ที่รวดเร็ว ด้วยการเริ่มต้นวางแผน/ออกแบบ ลงมือทำให้เห็นผล (สำเร็จหรือล้มเหลว) แล้วนำข้อสังเกตที่ได้มาปรับใช้ ทำให้เกิดวงจรการเรียนรู้ที่หมุนวน

4. เสริมพลังให้บุคลากรรู้สึกเป็นเจ้าของในงานอย่างเต็มที่ (Full Ownership) เชื่อมั่นในตัวพนักงานที่จะสร้างสรรค์งานให้บรรลุทั้งเป้าหมายของตนเองและองค์กร พัฒนาพนักงานให้ความสามารถพร้อมปรับเปลี่ยนบทบาทเพื่อให้งานสำเร็จ

5. ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเป็นแกนหลักในการผสานการทำงานและส่งมอบผลงานอย่างไร้รอยต่อ เป็นวิธีการที่เพิ่มคุณค่าและตอบสนองความต้องการของธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรวดเร็ว

การนำองค์กรในบริบทของ Agile จึงจำเป็นที่ต้องอาศัยผู้นำทุกระดับขององค์กร ที่จะสร้างและสนับสนุนวัฒนธรรมการเรียนรู้ ที่เอื้อให้พนักงานปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงขององค์กร ที่กำลังเผชิญกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจ สังคมที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต (Future Trends) เช่น ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งการที่คนรุ่น Millennial จะก้าวเข้าสู่องค์กร เป็นต้น

จากข้อมูลของ www.Agilebusiness.org กล่าวถึงบทบาทหลักของผู้นำ 3 ประการ (3C) ที่จะสร้างวัฒนธรรมในองค์กรที่มีลักษณะของ “Agile” สำหรับในตอนแรกจะกล่าวถึงแต่ละบทบาทโดยย่อ ดังนี้ บทบาทแรกเป็น “Communication” คือ การสื่อสารที่สร้างแรงบันดาลใจ เป็นตัวแบบที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดผลลัพธ์ในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในระดับบุคคล ทีมและองค์กร บทบาทที่สองเป็น “Commitment” เป็น การแสดงออกของผู้นำที่แสดงถึงความตั้งใจจริง มีวิสัยทัศน์และทิศทางที่ชัดเจน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งองค์กร มีความเข้าอกเข้าใจพนักงาน

สร้างความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างพนักงาน เพื่อสร้างความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม และบทบาทหลักสุดท้าย คือ “Collaboration” หรือ “การร่วมมือร่วมใจ” คือ ผู้นำที่ถ่ายโอนอำนาจของตนเพื่อเสริมพลังให้กับพนักงานคนอื่นในองค์กร ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสำเร็จของระดับทีมมากกว่าส่วนบุคคล รวมถึงเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกที่ในองค์กร

สำหรับลักษณะของพฤติกรรมย่อยในแต่ละบทบาทหลักของผู้นำในองค์กรที่มีลักษณะ Agile จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามในตอนต่อไป