เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดใจว่านี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สุดๆ หลังจาก “หงส์แดง” เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ บาร์เซโลน่า 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จนพลิกเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-3
ก่อนลงเล่นเกมนี้หลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้แน่นอนหลังจากนัดแรกแพ้ไปก่อน 0-3 แถมนัดนี้ไม่มีทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ สองแนวรุกคนสำคัญ อย่างไรก็ตาม ทีมของ คล็อปป์ กลับสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้ พร้อมเข้าสู่รอบชิงดำของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
คล็อปป์ เผยว่า “เกมที่เกิดขึ้น และฟอร์มที่เราทำได้มันน่าเหลือเชื่อมาก มันยอดเยี่ยมสุดๆ ตลอดชีวิตนี้ผมดูเกมฟุตบอลมาหลายนัด แต่ผมไม่ค่อยได้เจอเกมอะไรที่มันยอดเยี่ยมแบบนี้เลย แค่การเอาชนะให้ได้มันก็ยากมากพออยู่แล้ว แต่นี่เรายังทำได้โดยที่ไม่เสียประตูอีก ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่าลูกทีมทำได้ยังไง ผมเห็น เจมส์ มิลเนอร์ ร้องไห้ในสนามหลังจบเกม มันมีความหมายกับเราทุกคนมากๆ จริงอยู่ว่าโลกนี้มันมีเรื่องที่สำคัญมากกว่านี้อีกหลายอย่าง แต่การสร้างบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาได้ก็ถือเป็นเรื่องที่วิเศษสุดๆ”
“นี่ปาเข้าไป 4 ทุ่ม 10 นาทีแล้ว เด็กๆ ส่วนใหญ่คงจะนอนไปแล้ว แต่เด็กๆ เหล่านี้ (หมายถึงนักเตะ ลิเวอร์พูล) เป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงโคตรๆ มันน่าเหลือเชื่อสุดๆ คุณจะปรับผมเพราะผมพูดคำหยาบก็ได้ ผมไม่ใช่คนท้องถิ่นของที่นี่ ดังนั้นผมเลยไม่รู้จักคำพูดที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ”
ขณะที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ซึ่งลงสนามแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้าย ที่มีปัญหาบาดเจ็บ และกลายเป็นคนที่ช่วยทีมพลิกนรกอย่างแท้จริง เมื่อทำประตู 2-0 และ 3-0 แบบติดๆ กัน เผยว่า ตนและผองเพื่อนพิสูจน์แล้วว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในเกมลูกหนัง
“หลังจบเกมที่สเปน เรามั่นใจว่า สามารถยิงคืน 4 ลูก และเอาชนะ 4-0”
“ใครๆ ต่างสงสัยเรา คิดว่าเราทำไม่ได้ แต่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราแสดงให้เห็นว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้สำหรับเกมฟุตบอล ผมรู้สึกโกรธผู้จัดการทีมเหลือเกิน ที่จับผมนั่งสำรอง ผมแค่อยากช่วยทีม ผมยินดีมากที่ทำได้ 2 ประตู”
