“กกต.” ประกาศส.ส.เขต 349 คน เพื่อไทยยังแชมป์ครอง 136 นั่ง พลังประชารัฐตามมาที่ 97 ที่นั่ง แต่ยังไม่รับเพื่อไทยเขต 8 เชียงใหม่ปมใบส้ม
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า กกต. ได้ประกาศรายชื่อผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 349 คน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 127
ในจำนวนที่ประกาศออกมานั้น ประกอบไปด้วย
- พรรคเพื่อไทย 136 คน กทม.9 ที่นั่ง ภาคกลาง 15 ที่นั่ง ภาคอีสาน 84 ที่นั่ง ภาคเหนือ 29 ที่นั่ง ส่วนภาคใต้ไม่มีที่นั่งส.ส.เลยกทม.9 ที่นั่ง ภาคกลาง 15 ที่นั่ง ภาคอีสาน 84 ที่นั่ง ภาคเหนือ 29 ที่นั่ง ส่วนภาคใต้ไม่มีที่นั่งส.ส.เลย
- พรรคพลังประชารัฐ 97 คน กทม.ได้ 12 เขต ภาคกลาง 36 ที่นั่ง อีสาน 11 เขต เหนือ 25 เขต ใต้ 13 ที่นั่ง
- พรรคภูมิใจไทย 39 คน กทม.ไม่มีที่นั่ง ภาคกลาง 13 ที่นั่ง อีสาน 16 ที่นั่ง ภาคเหนือ 2 ที่นั่ง ใต้ 8 เขต
- พรรคประชาธิปัตย์ 33 คน กทม.ไม่มีที่นั่ง กลาง 8 เขต อีสาน 2 ที่นั่ง เหนือ 1 ที่นั่ง ภาคใต้ 22 ที่นั่ง
- พรรคอนาคตใหม่ 30 คน กทม. 9 เขต ภาคกลาง 15 ที่นั่ง อีสาน 1 เขต เหนือ 5 เขต ใต้ไม่มีที่นั่ง
- พรรคชาติไทยพัฒนา 6 คน ภาคกลาง 5 ที่นั่ง ภาคอีสาน 1 ที่นั่ง
- พรรคประชาชาติ 6 คน ภาคใต้ทั้งหมด
- พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 ที่นั่งจากภาคใต้
- พรรคชาติพัฒนา 1 นั่ง จังหวัดนครราชสีมา
การประกาศผลครั้งนี้ถือเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการ 350 เขต ไม่ใช่ 95% ยกเว้นเพียง 1 เขต คือ จังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ที่มีการแจกใบส้มให้กับนายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย
ส่วนการรับรอง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ยืนยันว่าจะประกาศรับรองผลไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม ส่วนจะใช้วิธีการคำนวณแบบใด ก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ (8พ.ค.) แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร สำนักงาน กกต. ก็เตรียมวิธีการคำนวณไว้ทั้งหมดแล้ว
ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งตามประกาศดังกล่าว ให้มารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (ส.ส. 6/4) นับตั้งแต่วันนี้ (7พ.ค.) เป็นต้นไป โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุม 203 ชั้น 2 สำนักงาน กกต. โดยรายชื่อทั้งหมดจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาวันนี้ รวมถึงจะประกาศบนเว็บไซต์สำนักงาน กกต. ด้วย
สำหรับกรณีมีผู้ร้องเรียนที่เข้ามาร้องเรียนถึงประเด็นคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม มีประมาณ 400 เรื่อง ในจำนวนนี้ มี 50 เรื่อง ที่เป็นประเด็นการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงาน กกต. รวมถึงคณะกรรมการ ซึ่งตามหลักการของการสืบสวน ไต่สวน นอกจากการหาพยานหลักฐานแล้ว ผู้ถูกกล่าวหา มีโอกาสที่จะชี้แจงแสดงหลักฐานได้ หากพบว่ามีความผิด กกต. ก็จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
“ตามกฎหมายเมื่อ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส.ไปแล้ว ก็ยังมีอำนาจในการตรวจสอบตามคำร้อง และยังมีการเลือกตั้งใหม่ได้ นั่นหมายถึงว่าภายใน 1 ปีนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งนั้น หากพบการกระทำความผิด ของส.ส.ก็สามารถตรวจสอบและเอาผิดย้อนหลังได้”นายแสวง กล่าว
ภายหลังเสร็จการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ปรากฏว่า น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส. เขต 5 จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมารับหนังสือรับรอง โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากวันนี้ได้เดินทางมาทำธุระที่กรุงเทพฯ และพอทราบข่าวจึงได้เดินเข้ามารับหนังสือ เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (8พ.ค.) มีภารกิจในพื้นที่
