การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2019 “The 2019 Betfred World Snooker Championship” ที่ ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 2,231,000 ปอนด์ หรือกว่า 93 ล้านบาท ในรอบชิงชนะเลิศโดยสองเซสชั่นแรก “เพชฌฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ นำห่าง “พ่อมดวิสกี้” จอห์น ฮิกกินส์ มือ 5 ของโลกจากสกอตแลนด์ เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 12-5 เฟรม
เกมการแข่งขันเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นเซคชั่นที่ 3 ปรากฏว่า “เพชฌฆาตปืนกล” ยังออกคิวสุดร้อนแรงเป็นฝ่ายกดเอาชนะ ไป 18-9 เฟรม คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ และ เป็นการล้างแค้น ฮิกกินส์ หลังจากทั้งคู่เคยเป็นคู่ชิงในปี 2011 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งขณะนั้น “พ่อมดวิสกี้” อยู่ในช่วงพีคสุดๆ เอาชนะ ทรัมป์ ดาวรุ่งพุ่งแรงไป 18-15 เฟรม
การคว้าแชมปืครั้งนี้ทำให้ ทรัมป์ รับเงินรางวัล 500,000 ปอนด์ (ราว 20.5 ล้านบาท) และเป็นนักสนุกเกอร์คนแรกในหน้าประวัติศาสตร์ที่ทำเงินได้กว่า 1 ล้านปอนด์ (ราว 41 ล้านบาท) ในซีซั่นเดียว นอกจากนี้ยังทำให้สถิติการพบกันตลอด 33 ครั้งของทั้งคู่ ปรากฏว่า ฮิกกินส์ ชนะ 22 แมตช์, ทรัมป์ชนะ 10 แมตช์ ส่วนอีก 1 แมตช์จบลงด้วยผลเสมอ
ทรัมป์ เปิดใจว่า “มันเป็นความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อมากๆ สำหรับผมจากที่ที่ผมเคยอยู่ ผมต้องทำงานหนักมาเพื่อให้ได้สิ่งนี้ สำหรับผู้คนที่อยู่ล้อมรอบตัวผมนี่คือเรื่องที่พิเศษที่สุด มันเป็นรอบชิงที่น่าอัศจรรย์ เต็มไปด้วยมาตรฐาตั้งแต่การเล่นลูกแรก ผมพยายามยกระดับมาตฐานของผมในการสู้กับ จอห์น ตลอด และยังไม่เคยเอาชนะเขาได้เลย บางทีนี่เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของผมในรอบชิงรายการใหญ่ก็ว่าได้”
ด้าน ฮิกกิ้นส์ เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย ยอมรับว่า ทรัมป์ ผลงานยอดเยี่ยมจริงๆ “เขายอดเยี่ยมมากๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมขอชื่นชมว่าเขามีมาตรฐานที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ผมไม่เคยคาดหวังที่จะได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ผมได้สู้กับสุดยอดเครื่องจักรสังหารที่ยากจะหยุดได้”
ทั้งนี้ จัดด์ ทรัมป์ เข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งที่สอง ขณะที่ จอห์น ฮิกกินส์ คว้าแชมป์ถึง 4 สมัย จากการเข้าชิงถึง 8 ครั้ง และหนนี้นับเป็นรอบชิงครั้งที่ 3 ติดต่อกันของเจ้าตัว
