ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการประชุมกันในเดือนมีนาคม บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง
การจ้างงานโดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่วนการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจชะลอตัวลงในไตรมาสแรก
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อรายปีนั้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 2% มาตรการแบบอิงตลาด ที่ใช้สำหรับชดเชยปัจจัยเงินเฟ้อนั้น ยังอยู่ในระดับต่ำช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
แถลงการณ์ว่าย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนในการดำเนินนโยบาย เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก รวมถึง แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดน้อยลงแล้ว ส่วนการปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อสนับสนุนผลลัพธ์เหล่านี้
แถลงการณ์ที่ออกมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาหน้าสู่ขาลง โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลงมา 162.77 จุด หรือ 0.61% ที่ 26,430.14 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,923.73 จุด ลดลง 22.10 จุด หรือ 0.75% และดัชนีแนสแด็ก ปรับลงมา 45.75 จุด หรือ 0.57% ที่ 8,049.64 จุด
ตลาดมองว่า ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อนั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ยก็ตาม
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 63.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ที่ 72.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล