ประท้วงเวเนซุเอลาบานปลาย กลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนัก กลางกรุงการากัส หลัง “ฮวน ไกวโด” แกนนำฝ่ายค้านเรียกร้องให้กองทัพลุกขึ้นต่อต้านประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ผู้ที่ในเวลาต่อมา ออกมาประกาศชัยชนะเหนือความพยายามรัฐประหาร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความพยายามที่ดูเหมือนจะวางแผนมาอย่างระมัดระวังของนายไกวโด ที่จะจัดการชุมนุมประท้วงโดยมีกองทัพให้การสนับสนุน ต้องพังทลายกลายมาเป็นเหตุจลาจลกลางเมืองหลวงของประเทศ และเมื่อเย็นวานนี้ (30 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีมาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ก็ได้ออกมาประกาศชัยชนะต่อการประท้วงที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาระบุว่าเป็น ความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร
นายมาดูโร ได้แสดงความยินดีต่อกองทัพ ที่สามารถเอาชนะ “คนกลุ่มเล็กๆ” ที่ตั้งใจกระจายความรุนแรง ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะกันขึ้นมา
ผู้นำเวเนเซุเอลา ยังประกาศที่จะดำเนินคดีทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ฐานก่ออาชญากรรมอย่างรุนแรงต่อรัฐธรรมนูญของประเทศ ฝ่าฝืนกฎหมาย และต่อต้านสิทธิที่จะอยู่อย่างสงบสันติ
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนนายไกวโดในทันที โดยทวีตข้อความว่า รัฐบาลสหรัฐจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนชาวเวเนซุเอลา และเสรีภาพของพวกเขา
เหตุปะทะกันครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังนายไกวโดดำเนินการปลุกระดมกลุ่มผู้สนับสนุน ด้วยการเผยแพร่คลิปวีดิโอในช่วงเช้าวานนี้ เป็นภาพที่เขายืนอยู่กับทหารจำนวนหนึ่ง ที่เขาบอกว่า เขาใช้ความพยายามเจรจาอยู่นานหลายเดือน ขอเให้ทหารเข้าร่วมกับการรณรงค์ของเขาที่จะขับไล่นายมาดูโรให้พ้นจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายภาพของนายไกวโด วัย 35 ปี อยู่ด้านนอกฐานทัพอากาศลา คาร์โลตา เรียกร้องให้กองกำลังภายในเข้าร่วมกับเขา
เรื่องที่น่าตกใจ และกลายเป็นแรงกระตุ้นให้กับผู้สนับสนุนนายไกวโดมากขึ้น คือ ภาพของนายเลโอโปลโด โลเปซ แกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญของเวเนเซุเอลา ที่ยืนอยู้เคียงข้างเขา และบอกว่า ทหารได้ปล่อยตัวเขาออกจากการโดนกักบริเวณในบ้านพัก ที่ดำเนินมานานหลายปีแล้ว
นายไกวโดอ้างว่า การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเริ่มต้น เพื่อนำไปสู่จุดจบในการปกครองประเทศของนายมาดูโร และจะไม่มีวันหันหลังกลับ หลังเกิดเหตุปะทะกันอย่างรุนแรง นายไกวโดยังเรียกร้องให้มีการชุมนุมขึ้นอีกครั้งในวันนี้ (1 พ.ค.)
ทั้งนี้ เหตุประท้วงรุนแรงครั้งล่าสุดในเวเนซุเอลา เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนพากันเดินขบวนไปยังทางด่วนใกล้กับฐานทัพอากาศ หลายคนโบกธงชาติเวเนซุเอลา แต่กลับโดนทหารที่ยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนปืนเข้าใส่
ภาพการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ประท้วงที่มีการเผยแพร่ออกมา ยังรวมถึง ภาพที่รถทหารพุ่งเข้าชนกลุ่มผู้ประท้วงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย จากนั้นผู้กลุ่มผู้ประท้วงได้เคลื่อนย้ายรถบัสมาขวางถนนบนทางหลวง ก่อนจะจุดไฟเผา ขณะที่สถานทูตบราซิลเปิดเผยว่า มีทหารราว 25 นายเดินทางเข้าไปขอลี้ภัยที่สถานทูต
ในเวลาต่อมา มีรายงานว่า นายโลเปซได้เข้าไปยังสถานทูตชิลี พร้อมด้วยภรรยา และบุตรคนหนึ่ง เพื่อขอลี้ภัย ก่อนที่จะย้ายไปยังสถานทูตสเปน
