Sport

‘บิ๊กดาต้า’ทำนายแชมเปี้ยนส์ลีก‘หงส์’มีลุ้น 19%

การแข่งขันนัดตัดเชือก ชิงตำแหน่งแชมป์ลูกหนังสโมสรยุโรปถ้วย “ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก” (ชปล.) วันเสาร์ 26 พฤษภาคม 2561 ที่กรุงเคียฟ ยูเครน  ระหว่าง “ลิเวอร์พูล” อังกฤษ และ “เรอัล มาดริด” สเปน  ต้องบอกว่าบรรดาแฟนหงส์แดง ต่างเฝ้าลุ้นให้ทีมรัก สร้างสถิติครองแชมป์ยุโรปเพิ่มขึ้นอีกครั้ง!!

ก่อนเกมการแข่งขันเริ่มขึ้น “ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส” ประเทศไทย ที่ได้เปิดตัวแผนกใหม่  Data & Analytics การนำข้อมูล (data) มาวิเคราะห์ เพื่อใช้ประโยชน์จาก “บิ๊กดาต้า” ที่เกิดขึ้นในทุกช่องทางมาพัฒนาโมเดลการทำงานที่ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคนี้

ไอพีจี Data Analytics
รูปเฟซบุ๊ก ipg mediabrands thailand

ในโอกาสเปิดตัวแผนกใหม่ ศรัณยพัชร์ อติกันต์ธนา Analytic Manager ของทีม Data & Analytics ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส นำเสนอวิธีการทำงานของแผนก ด้วยการใช้โมเดล Data Analytics มาวิเคราะห์เกมการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่าง “ลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด”

สำหรับเกมนี้ ต้องบอกเลยว่า “ลิเวอร์พูล” หากต้องการเป็นแชมป์  การต่อสู้ไม่ใช่แค่ลิเวอร์พูลกับเรอัล มาดริดเท่านั้น แต่มีทั้งกลุ่มที่เป็นลิเวอร์พูลและไม่ใช่ลิเวอร์พูล!!

ไอพีจี Data Analytics

หากนำสถิติการแข่งขันของทั้ง 2 ทีม ลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด ในอดีตมากางดู เพื่อคาดการณ์ผลการแข่งขัน ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้  โดยใช้สถิติการแข่งขันที่ทั้ง 2 ทีม เคยพบกันมาก่อน

การทำ Data Analytics ครั้งนี้ ใช้สถิติย้อนหลังของฤดูกาลล่าสุด ของ “ลิเวอร์พูล” 38 นัด  และ เรอัล มาดริด 38 นัด และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 13 นัด เพราะจากประสบการณ์การวิเคราะห์ข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าการใช้ข้อมูลฤดูกาลล่าสุดมาวิเคราะห์ จะทำให้ได้ผลการแข่งขันที่ “แม่นยำ” มาก!!

จากนั้นมาดูปัจจัยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการวิเคราะห์ผลการแข่งขันในเกมนี้ คือ

  •  การทำประตูในบ้านของทั้ง 2 ทีม
  • การทำประตูทีมเยือนของทั้ง 2 ทีม
  • คู่แข่งที่มาแข่งในบ้านของ 2 ทีม ทำประตูจำนวนเท่าไหร่
  • คู่แข่งเล่นในบ้านกับ 2 ทีมนี้ ทำประตูจำนวนเท่าไหร่

ไอพีจี Data Analytics

 ส่องสถิติทีม“สเปน-อังกฤษ”

โดยนำข้อมูล 200 เหตุการณ์ จากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มาวิเคราะห์  หากดูสถิติย้อนหลังการแข่งขันของทั้ง 2 ทีม จะเห็นว่าหากแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก คือ 20 ปี และ 40 ปีย้อนหลัง

จะพบว่าช่วง 20 ปีหลัง ทีมฟุตบอลจาก “สเปน” คว้าแชมป์ได้ 10 ครั้ง และทีมจาก “อังกฤษ” คว้าแชมป์ได้ 10 ครั้ง ตัวเลขดังกล่าวสะท้อน “ข้อมูลเชิงลึก” (Insight) ที่เกิดเป็นโมเดลการพัฒนาฟุตบอล  โดยเฉพาะทีมใหญ่ อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ที่มีการใช้ ซูเปอร์สตาร์ ในการแข่งขัน จะเห็นได้ว่า  เรอัล มาดริด ทุ่มเงินซื้อ ซูเปอร์สตาร์ดัง อย่างต่อเนื่อง  เช่น เซนาดีน ซีดาน ,เดวิด เบ็คแฮม ,โรนัลโด้  การมีซูเปอร์สตาร์ นอกจากสร้างรายได้และชื่อเสียงแล้ว ยังช่วยให้นักเตะสเปนมีทักษะที่เก่งขึ้น เพราะรวบรวมนักเตะจากทั่วโลก เช่นเดียวกับทีมบาร์เซโลน่า ที่มีซูเปอร์สตาร์ เช่น หลุยส์ ฟิโก้ , โรนัลโด้ ,โรนัลดินโญ ,เมซซี

ส่งผลให้ช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทีมจาก “สเปน” ครองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หลายครั้ง และสะท้อนไปที่ผลงานทีมชาติ ซึ่งถือเป็นแผนพัฒนาฟุตบอลของทีมสเปน

สำหรับทีมจากอังกฤษ ตัวเลขที่น่าสนใจ พบว่าเป็นทีมที่เก่งในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา โดยใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย เน้นเล่นฟุตบอลยาว แต่ปัจจุบันเป็นบอลสมัยใหม่ อังกฤษจึงมองว่าหากจะพัฒนาฟุตบอลให้เท่าเทียมสเปน อาจต้องสร้างความแตกต่างจากเดิม

ดังนั้นเมื่อนำสถิติ 20 ปีมากาง  พบว่า ทีมสเปน ได้แชมป์ เป็นส่วนใหญ่ พบว่าสถิติ 4 ปีหลังของยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ทีมสเปนครองแชมป์ คือ  บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด

“หากมองปีที่ผ่านมา ปีนี้ก็อาจเป็นทีมสเปนอีกก็ได้ แต่หากมองสถิติ 20 ปีที่ผ่านมา ทีมที่ได้แชมป์สลับกันมาต่อเนื่องระหว่างทีม สเปน และอังกฤษ  แม้ 4 ปีหลังทีมจาก สเปน จะครองแชมป์ทั้งหมด ดังนั้นทีมอังกฤษยังคงต้องมีหวัง”

วิเคราะห์สกอร์ 5 อันดับแรก

เมื่อมาดูสถิติที่ทีม “ลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด” แข่งขันกันในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งหมด 5 ครั้ง  สถิติ “ลิเวอร์พูล” พบกับ เรอัล มาดริด 5 ครั้ง พบว่าลิเวอร์พูลชนะ 3 ครั้ง  แพ้ 2 ครั้ง

การเจอกันล่าสุด 2 ครั้ง เมื่อ 4 ปีก่อน  ลิเวอร์พูล “แพ้” ทั้ง 2 ครั้ง และเป็นการแพ้แบบทำประตูไม่ได้  ซึ่งนักเตะ เรอัล มาดริด ชุด 4 ปีก่อนกับชุดปัจจุบันแตกต่างกันไม่มาก

ดังนั้นจากการคำนวณทางสถิติด้วยการวิเคราะห์ดาต้า (Data Analytics) ต่าง ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเกมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด  ในคืนวันเสาร์ 26 พฤษภาคมนี้

พบว่า เรอัล มาดริด มีโอกาสชนะ 61เสมอในเวลา/ต่อเวลาพิเศษ/เตะจุดโทษ 20% และ ลิเวอร์พูล ชนะ 19%

ไอพีจี Data Analytics

โดยสกอร์การแข่งขันที่น่าจะเป็นไปได้ในทางสถิติ 5 อันดับแรก

  • ลิเวอร์พูล 1 เรอัล มาดริด 2  สัดส่วน 9.8%
  • ลิเวอร์พูล 1 เรอัล มาดริด 1  สัดส่วน 9.2%
  • ลิเวอร์พูล 0 เรอัล มาดริด 2  สัดส่วน 9.0%
  • ลิเวอร์พูล 0 เรอัล มาดริด 1  สัดส่วน 8.4%
  • ลิเวอร์พูล 1 เรอัล มาดริด 3  สัดส่วน 7.0%

ไอพีจี Data Analytics

การวิเคราะห์ทางสถิติ สกอร์ที่น่าจะเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบชิงชนะ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปีนี้ ใน 5 อันดับแรกจะพบว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีโอกาสชนะเลย!!  โดยโอกาสที่จะชนะอยู่ที่อันดับที่ 8  สัดส่วนประมาณ 5%

แม้ในเชิงสถิติ จะให้น้ำหนักผู้ชนะจากตัวเลขที่มากกว่า แต่การวิเคราะห์เชิงกีฬา ที่แตกต่างจาก ตัวเลขมาร์เก็ตติ้ง คือ ความไม่แน่นอน!!

และในมุมมองของนักวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นแฟนทีมลิเวอร์พูล ก็ยังมีความหวังกับทีมที่เรารักเสมอ บอกได้คำเดียว You Never Walk Alone!!

Data Analytics ‘ศาสตร์และศิลป์’ ที่องค์กรต้องเข้าใจ!

Avatar photo