พีทีที โออาร์ หนุนใช้ไบโอดีเซลเต็มที่ ช่วยดูดซับซีพีโอ กระตุ้นค่ายรถยนต์ช่วยสร้างความมั่นใจประชาชนต่อเนื่อง มั่นใจช่วยดันการใช้ซีพีโอได้อีกเท่าตัว เป็น 700,000 ตันในอนาคต
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีที โออาร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ผลปาล์มล้นตลาด ทำให้ราคาปาล์มตกต่ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 กระทรวงพลังงาน จึงกำหนดมาตรการ เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันปาล์มด้วยการออกนโยบายเพิ่มปริมาณการใช้ไบโอดีเซล บี 100 ในภาคพลังงาน โดยบริษัทได้เข้ามาช่วยส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 3 บี 5 บี 7 จนถึง บี 10 และ บี 20 ในปัจจุบัน และช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาด ด้วยการรับซื้อไบโอดีเซล บี 100 มาเก็บสำรองไว้รวมกว่า 100 ล้านลิตร
ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน บริษัทใช้น้ำมันปาล์มดิบไปแล้วกว่า 2.3 ล้านตัน เพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล บี 100 กว่า 2,600 ล้านลิตร คิดเป็นปริมาณ 35 % ของการใช้น้ำมันปาล์มดิบในภาคเชื้อเพลิงทั้งหมดของประเทศ และนำมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายไปแล้วกว่า 45,800 ล้านลิตร
หากค่ายรถยนต์ให้การรับรองการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล บี 100 ในสัดส่วนที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้ใช้รถเกิดความมั่นใจ และมีความต้องการใช้เพิ่มตาม โดยคาดว่าจะทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 40 % ได้ในอนาคตอันใกล้ จากปริมาณการใช้ของปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 490,000 ตันต่อปี
ปัจจุบัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ พีทีที โออาร์ ซึ่งมีจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จำนวน 30 แห่งทั่วประเทศ และจะเพิ่มจำนวนสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพ ตั้งแต่กระบวนการผลิต ขนส่ง จัดเก็บ และจำหน่าย โดยมีหน่วยงานควบคุมคุณภาพออกตรวจคุณภาพน้ำมันทุกชนิดในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทุกแห่งอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
“บริษัทพร้อมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงาน ในการเพิ่มปริมาณการใช้ไบโอดีเซล บี 100 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในตลาด ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มที่ได้รับผลกระทบจากราคาปาล์มตกต่ำ และยังช่วยบรรเทาสภาวะมลพิษทางอากาศ ลดภาระค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงของประชาชน รวมถึงลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าน้ำมันของประเทศ “