ทางการศรีลังกาออกคำสั่งภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามผู้หญิงสวมผ้าคุลมปิดบังใบหน้า หลังเกิดเหตุกลุ่มอิสลามสุดโต่ง โจมตีเมื่อวันอีสเตอร์ 21 เมษายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ศรีลังกา ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง สามารถบ่งชี้ตัวบุคคลได้ ในช่วงเวลาที่กำลังไล่ล่าตามหาตัวสมาชิกผู้ก่อเหตุ ที่อาจยังหลงเหลือ รวมถึงเครือข่ายที่ให้ความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าวสร้างความกังวลต่อชุนมุสลิมในประเทศว่า หากคำสั่งห้ามข้างต้นยืดเยื้ออกไป อาจจุดชนวนให้เกิดความตึงเครียดในประเทศที่ถูกแบ่งแยกด้วยศาสนา นับตั้งแต่เกิดสงครามการเมืองกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของชาวทมิฬ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ เมื่อทศวรรษก่อน
ทางการศรีลังกาออกคำเตือนด้วยว่า กลุ่มติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดพลีชีพโจมตีโรงแรมหรู และโบสถ์ รวม 6 แห่ง เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 คนนั้น กำลังวางแผนที่จะโจมตีอีก ด้วยการใช้รถตู้ และมือระเบิดที่จะสวมเครื่องแบบทหารปลอมตัวมา
ธรรมศรี บันดารา เอกานายากี โฆษกประธานาธิบดีไมตรีพาลา ศิริเสนา เปิดเผยว่า เป็นคำสั่งของประธานาธิบดีที่จะสั่งห้ามการคลุมหน้าตาทั้งหมด โดยมีผลในทันที
ทางด้านนายกรัฐมนตรีรารนิล วิกรมซิงห์ แถลงว่า ได้ขอให้รัฐมนตรียุติธรรม จัดทำร่างข้อบังคับ เพื่อสั่งห้ามการคลุมหน้าดังกล่าว
ส่วนกลุ่มออลซีลอนจามิยาธุลอูลามะ (เอซีเจยู) ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิชาการอิสลามในศรีลังกา กล่าวว่า พวกเขาสนับสนุคำสั่งห้ามในระยะสั้น ด้วยเหตุผลทางด้านการรักษาความปลอดภัย แต่จะคัดค้านทุกความพยายาม ที่จะออกกฎหมายห้ามการคลุมหน้าอย่างถาวร
