Politics

โดนแล้ว! ‘ศาล’ ฟัน ‘อนาคตใหม่’ สกลนครหลุดส.ส.ปมถือหุ้นสื่อ

“ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง” ฟัน “อนาคตใหม่” เขต2 สกลนคร พร้อมถอนออกจากรายชื่อส.ส.แบบแบ่งเขต กรณีถือครองหุ้นสื่อ

ศาลฎีกา

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงผลคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้งที่ 1706/2562 ระหว่างผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสกลนคร ยื่นคำร้องว่า นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ผู้คัดค้าน ขาดคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ เนื่องจากผู้คัดค้านเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์ ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ผู้ร้องจึงขอให้ถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสกลนคร

อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าว นายภูเบศวร์ ผู้คัดค้าน ได้ยื่นคำคัดค้านอ้างว่า หจก. มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารสถานที่ ไม่ใช่ที่พักอาศัยที่ระบุในวัตถุประสงค์ ข้อที่ 43 ว่าประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ รับจัดทำสื่อโฆษณาสปอร์ตโฆษณาเผยแพร่ข้อมูล แต่เป็นเพียงแบบวัตถุประสงค์สำเร็จรูปแนบคำขอจดทะเบียนเท่านั้น อีกทั้ง หจก.ดังกล่าวได้สิ้นสภาพนิติบุคคลไปตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2562 แล้ว จึงขอให้ยกคำร้อง

นายสุริยัณห์ กล่าวต่อว่า ศาลฎีกาฯได้ตรวจพยานหลักฐานคู่ความทั้งสองฝ่ายที่เสนอต่อศาลแล้ว เห็นว่าเบื้องต้นคดีนี้ไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐาน จึงให้งดการไต่สวน และหลังจากตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติ ว่าผู้ร้องประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสกลนคร พรรคอนาคตใหม่

ทั้งนี้ นายภูเบศวร์ ผู้คัดค้านเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 ผู้คัดค้านจดทะเบียนเลิก หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าผู้คัดค้าน เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือไม่ ศาลฎีกาฯ เห็นว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 บัญญัติว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดย (3) บัญญัติว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ

ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 บัญญัติเช่นเดียวกันว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดย (3) บัญญัติว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆมิได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้คัดค้านเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของหจก. มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง เเอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์ ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3)

สำหรับผู้คัดค้านอ้างว่า หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส มีวัตถุประสงค์ดังกล่าว แต่ไม่ได้ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์จึงฟังไม่ขึ้น แม้ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม 2562 ผู้คัดค้าน จะจดทะเบียนเลิกหจก.ดังกล่าวแล้ว แต่เป็นระยะเวลาหลังจากผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงต้องถือว่าในวันที่ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ผู้คัดค้านยังเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามบทบัญญัติดังกล่าวและไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. ศาลฎีกาฯ เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น จึงมีคำสั่งให้ถอนชื่อ นายภูเบศวร์ ผู้คัดค้าน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสกลนคร พรรคอนาคตใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรติดต่อนายภูเบศร์ รวมถึงไลน์ เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight