ธนาคารพาณิชย์ถือเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงสูงมาก สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำระดับปีละแสนล้านจนเป็นเรื่องปกติแล้ว เคยคิดไหมว่าถ้าเราเป็นเจ้าของธนาคารได้ก็คงดีไม่น้อย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ฝันเลื่อนลอยแน่นอน เพราะธนาคารพาณิชย์แทบทั้งหมดในไทย ล้วนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะฉะนั้น คนทั่วไปอย่างเราๆ หากอยากจะเป็นเจ้าของธนาคารสักแห่ง คุณสามารถทำได้เลย ด้วยการซื้อหุ้นธนาคารนั้นๆ เท่านี้ก็มีสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของธนาคาร เข้าประชุมผู้ถือหุ้นได้แล้ว
มีเงินเท่าไหร่ ถึงซื้อหุ้นแบงก์ได้
โดยทั่วไปการซื้อหุ้นแต่ละครั้ง ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 100 หุ้นขึ้นไป ดังนั้น มาดูกันว่าเราต้องใช้เงินเริ่มต้นเท่าไหร่ สำหรับการซื้อหุ้นธนาคารเหล่านี้ (อ้างอิงราคาปิดตลาด ณ วันที่ 26 เมษายน 2562)
ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ราคาหุ้นละ 204 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 20,400 บาท
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
ราคาหุ้นละ 190.50 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 19,050 บาท
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ราคาหุ้นละ 130 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 13,000 บาท
ธนาคารทิสโก้ (TISCO)
ราคาหุ้นละ 92 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 9,200 บาท
ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP)
ราคาหุ้นละ 68.75 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 6,875 บาท
ธนาคารธนชาต (TCAP)
ราคาหุ้นละ 54.75 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 5,475 บาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
ราคาหุ้นละ 38.50 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 3,850 บาท
ธนาคารกรุงไทย (KTB)
ราคาหุ้นละ 18.90 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 1,890 บาท
ธนาคารทหารไทย (TMB)
ราคาหุ้นละ 2.02 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 202 บาท
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFG)
ราคาหุ้นละ 1.50 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 150 บาท
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB)
ราคาหุ้นละ 0.77 บาท ใช้เงินเริ่มต้น 77 บาท
หุ้นแบงก์ยังน่าลงทุนไหม ?
ธนาคารคือธุรกิจที่ค่อนข้างจะมั่นคง และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเป็นลำดับต้นๆ ในประเทศไทย เห็นได้จาก 10 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทำกำไรมากที่สุดในปี 2561 ก็มีธนาคารพาณิชย์ติดเข้ามาถึง 4 แห่ง ได้แก่
– ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กำไรสุทธิ 40,068 ล้านบาท
– ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กำไรสุทธิ 38,459 ล้านบาท
– ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กำไรสุทธิ 35,330 ล้านบาท
– ธนาคารกรุงไทย (KTB) กำไรสุทธิ 35,330 ล้านบาท
ล่าสุดกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 มีกำไรรวมกัน 56,000 บาท เติบโตจากปีก่อน 8.9% สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และหลายธนาคารมีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงด้วย จากความเสี่ยงเรื่องหนี้เสีย (NPL) ที่เริ่มผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ต้องพิจารณา เช่น ต้นทุนดำเนินงานที่มาก การเข้ามาแทนที่ของเทคโนโลยี รวมถึงกลยุทธ์ที่ทุกธนาคารต้องงัดออกมาสู้ในยุคที่มีการแข่งขันรุนแรงแบบนี้