“เพื่อไทย” ร้อง “กกต.” สอบคุณสมบัติว่าที่ “ส.ส.พลังประชารัฐ” หลังพบมีการถือครองหุ้นสื่อ ย้ำยังมีอีกหลายรายกำลังทยอยตรวจสอบ
นายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสถิติ กองอำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 15 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากตรวจสอบเอกสารแผ่นพับหาเสียง ได้ระบุว่าเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ จากการสืบข้อมูลกรมธุรกิจการค้าและพาณิชย์ พบว่านายชาญวิทย์ หรือ ผู้ถูกร้อง เป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชน โดยพบว่าถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว จำนวน 250 ล้านหุ้น และเป็นผู้มีอำนาจในการลงนามของบริษัทดังกล่าวด้วย ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 42 (3) ที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจตรวจสอบและวินิจฉัย
“หากพบว่า บุคคลดังกล่าวมีลักษณะต้องห้าม ก็ขอให้ยกเลิกการเลือกตั้งในเขตดังกล่าว และสั่งให้ดําเนินการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 และขอให้ กกต. เร่งตรวจสอบและวินิจฉัยกรณีนี้ หากพบว่ากระทำความผิดจริงนายชาญวิทย์ ก็จะมีความผิดรับรองคุณสมบัติตนเองเป็นเท็จซึ่งก็จะมีความผิดทางอาญาด้วย”
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยกำลังสืบค้นข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องให้ กกต. ตรวจสอบและวินิจฉัยลักษณะต้องห้ามหรือการกระทำของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐอีกหลายรายที่กำลังทยอยตรวจสอบและยื่นต่อ กกต.ต่อไป