Economics

เคาะกรอบวินัยการเงินการคลัง-งบกลางไม่เกิน 3.5%

กระทรวงคลัง

กระทรวงการคลัง ได้ส่งเอกสารเผยแพร่ สรุปการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ (คณะกรรมการฯ) ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในมาตรา 62 บัญญัติให้รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ฐานะการเงิน การคลังของประเทศมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติในเรื่องเกี่ยวกับกรอบวินัยการเงินการคลังที่สำคัญ ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้

1. คณะกรรมการฯ ได้กำหนดสัดส่วนต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
1.1 สัดส่วนสำหรับใช้เป็นกรอบวินัยในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประกอบด้วย
1.1.1 สัดส่วนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องไม่น้อยกว่า 2.0% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
1.1.2 สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระต้องไม่น้อยกว่า 2.5% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยในส่วนของงบประมาณเพื่อการชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการกู้เงินของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระต้องตั้งตามภาระที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้น
1.1.3 สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีงบประมาณไม่เกินอัตรา 10% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
1.1.4 สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายงบประมาณรายจ่ายไม่เกินอัตรา 5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

1.2 สัดส่วนสำหรับใช้เป็นกรอบวินัยในการมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินงาน ซึ่งรัฐบาลรับภาระที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ให้ โดยกำหนดอัตราการชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายต้องมียอดคงค้างรวมกันไม่เกินอัตรา 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

1.3 สัดส่วนเพื่อใช้เป็นกรอบวินัยในการบริหารหนี้ประกอบด้วย
1.3.1 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ต้องไม่เกิน 60%
1.3.2 สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ ต้องไม่เกิน 35%
1.3.3 สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ต้องไม่เกิน 10%
1.3.4 สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ต้องไม่เกิน 5%

2. คณะกรรมการฯ ได้จัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง โดยมีเป้าหมายการคลัง คือ “การจัดทำงบประมาณแบบสมดุล” ทั้งนี้ รายละเอียดในแผนการคลังระยะปานกลางประกอบด้วย สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ สถานะและประมาณการการคลัง สถานะหนี้สาธารณะ และภาระผูกพันทางการเงินการคลังของรัฐบาล โดยแผนการคลังระยะปานกลางดังกล่าวจะต้องนำไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี และให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดเก็บหรือหารายได้ การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐต่อไป

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK