ทางการศรีลังกาเผยข้อมูลล่าสุด พบ 1 ในผู้ก่อเหตุระเบิดโรงแรมหรู และโบสถ์หลายแห่งในประเทศ เมื่อวันอีสเตอร์ เคยเรียนหนังสืออยู่ในสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะไปเรียนระยะสั้นๆ ที่ออสเตรเลีย
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้น หลังยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโบสถ์ และโรงแรมหรู รวม 8 แห่ง ในศรีลังกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 เม.ย.) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 359 ราย ด้วยจำนวนผู้บาดเจ็บที่มากกว่า 500 คน
ขณะที่นายกรัฐมนตรีรานิล วิคเรเมซิงห์ กล่าวว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ ไอเอสได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีดังกล่าว แต่ไม่ได้แสดงพยานหลักฐานโดยตรงถึงความเกี่ยวข้องกับการระเบิดที่เกิดขึ้น
ตำรวจศรีลังกาบอกว่า สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ 8 ใน 9 รายแล้ว โดยหนึ่งในจำนวนนี้เชื่อว่าเป็นผู้หญิง และไม่มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย
ในวันนี้ (24 เม.ย.) เจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐในศรีลังกา เตือนด้วยว่า มีการวางแผนก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องในประเทศ ซึ่งการโจมตีเกกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า และมุ่งเน้นไปยังสถานที่สาธารณะที่มีคนมารวมตัวกันจำนวนมาก
นายรุวัน วีเจวาร์ดีน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมศรีลังกา แถลงในวันเดียวกันนี้ว่า ทางการเชื่อว่า หนึ่งในมือระเบิดพลีชีพ เคยศึกษาในสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย และเดินทางกลับมาตั้งรกรากที่ศรีลังกา โดยผู้ที่ก่อเหตุเกือบทุกคน เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาดี และมาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ที่ค่อนไปในทางที่มีฐานะมั่งคั่ง
ทางการยังกำลังตรวจสอบถึงความเป็นไปได้ ที่จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่างมือระเบิดที่ก่อเหตุ กับกลุ่มรัฐอิสลาม ล่าสุด ตำรวจศรีลังกาได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการโจมตีไว้แล้วราว 60 คน และยังคงประกาศภาวะฉุกเฉินไว้ เพื่อป้องกันการโจมตีรอบใหม่
นายวีเจวาร์ดีน เตือนด้วยว่า อาจจะมีความพยายามที่จะก่อเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอีก โดยสถานการณ์ในศรีลังกายังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียด จากการไล่ล่าหาตัวผู้ต้องสงสัย และป้องกันความเป็นไปได้ที่จะมีการวางระเบิดอีก