“ทีเส็บ” รุกพัฒนาธุรกิจไมซ์ไทยในตลาดกลุ่มประเทศระยะไกล ร่วมกับ 4 หอการค้าต่างประเทศ พร้อมลงนามความร่วมมือ เจาะตลาดดึงงาน-นักเดินทางธุรกิจไมซ์
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์” ระหว่าง ทีเส็บ กับกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ (Foreign Alliance – FCA) ได้แก่ หอการค้าจาก 4 ประเทศ ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา และเยอรมัน ว่าเป็นก้าวสำคัญของทีเส็บในการพลิกบทบาท ผลักดันไมซ์ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับองค์กรต่างประเทศ ส่งเสริมการ พัฒนาไมซ์ไทยในตลาดต่างประเทศ ขยายการดำเนินงานเจาะตลาดไมซ์ระยะไกล (Long Haul) ในภูมิภาคโอเชียเนีย ยุโรป และอเมริกา นอกจากกลุ่มเป้าหมายหลักตลาดไมซ์ระยะสั้นในภูมิภาคเอเซีย
ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ไทยในกลุ่มตลาดระยะไกล เน้นประเทศในภูมิภาคโอเชียเนีย ยุโรป และอเมริกา เป็นครั้งแรกที่กลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ ลงนามความร่วมมือกับส่วนราชการไทย ซึ่งกลุ่มพันธมิตรมีสมาชิกกว่า 20,000 ราย ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ประกอบการค้าที่ดำเนินธุรกิจในภาคการค้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ
ภายใต้กรอบความร่วมมือพัฒนาธุรกิจไมซ์ ครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติและการจัดงานไมซ์ การพัฒนาธุรกิจไมซ์ การส่งเสริมการตลาดไมซ์ การศึกษาวิจัยสำหรับธุรกิจไมซ์ และการพัฒนาบุคลากรเพื่อธุรกิจไมซ์
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ความร่วมมือเบื้องต้นจะมุ่งเน้นอุตสาหกรรมการบริการ (Hospitality Service) เป็นหลัก เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มหอการค้าร่วมต่างประเทศ มีการลงทุนอยู่ในไทยมานาน มีสาขาธุรกิจด้านการบริการกระจายอยู่ในทั่วโลก จึงมีเป้าหมายขยายความร่วมมือกับหน่วยราชการไทย เป็นประตูสู่การดำเนินธุรกิจไมซ์ใน ไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อศึกษาข้อมูลและทิศทางตลาดไมซ์ไทย ร่วมวางแผนพัฒนาการตลาดไมซ์กับทีเส็บ
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือในการดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในไทย ทางหอการค้าร่วมต่างประเทศจะร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการตลาดของกลุ่มหอการค้าในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ด้านทีเส็บก็พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจไมซ์ไทย ทั้งสถิติและการจัดงานไมซ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจไมซ์ร่วมกัน
ทั้งนี้ ทางกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ ต้องการให้ภาครัฐเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจไมซ์ไทย รองรับการแข่งขันในระดับโลก เช่น การอำนวยความสะดวก ด้านพิธีการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมและจัดสร้างศูนย์ประชุม และการพัฒนาบุคลากรด้านไมซ์ในมาตรฐานระดับนานาชาติ พร้อมทั้งเสนอให้จัดตั้งศูนย์บริการด้านไมซ์ครบวงจร (One-Stop-Service) เพื่อเป็นประตูสู่การจัดงานไมซ์ในไทย อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์และผู้จัดงาน
“ทีเส็บเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไมซ์ไทย ในตลาดระยะไกลในภูมิภาคโอเชียเนีย ยุโรป และอเมริกาแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะดึงงานระดับนานาชาติ ให้กระจายการจัดงานไปยังภูมิภาคต่างๆ ของไทยด้วย โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดที่เป็นตลาดหลักในเมืองไมซ์ซิตี้ เช่น กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้ในแต่ละอุตสาหกรรม พัฒนาสร้างความเจริญให้กับทุกภูมิภาค
ด้านนายเบนจามิน เคร็ก รองประธานหอการค้าออสเตรเลีย ในฐานะผู้แทนกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ กล่าวว่าบทบาทของกลุ่มพันธมิตรหอการค้าร่วมต่างประเทศ ว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาและขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่สมาชิกของกลุ่มและไทยได้ โดยจะร่วมกับทีเส็บเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในไทย
“อุตสาหกรรมไมซ์เป็นสิ่งสำคัญ ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทย การเดินหน้าผลักดันการขยายขีดความสามารถของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสำหรับภูมิภาคเอเชีย แต่ยังหมายรวมถึงระดับโลก” นายเบนจามิน เคร็ก กล่าว