“อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง” ในเครืออเมซอน ดอท คอม ประกาศตั้งทีมงานในไทย สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งเจ้าของแบรนด์สินค้า และผู้ผลิตชาวไทยสร้างโอกาสในการส่งออก และขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ด้วยการเข้าถึงลูกค้าของอเมซอนทั่วโลก
นายเบอร์นาร์ด เทย์ ผู้อำนวยการ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทยินดีที่ได้จัดตั้งทีมงานอเมซอน โกลบอล เซลลิ่งในไทย เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจของไทยมีศักยภาพมากในการส่งออกสินค้าเพื่อขายในช่องทางออนไลน์
ที่ผ่านมาได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของผู้ขายชาวไทยมาแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง มีจุดเด่นในด้านการมีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก และมีนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้ขายทั่วโลก สามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
การเปิดตัวสำนักงาน และทีมงานในประเทศไทยในวันนี้ (23 เม.ย.) ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทีมงานของบริษัทในกรุงเทพฯ จะช่วยให้ความรู้และสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ค้นหาโอกาสที่จะทำธุรกิจและสร้างแบรนด์ของตนเองในตลาดโลก
ขณะที่นางบุษยากรณ์ เด เฮซูสเจ้าของ พีเจ วู้ด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวถึงประสบการณ์การทำธุรกิจบนอเมซอนว่า การทำธุรกิจบนอเมซอนถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญ เพราะทำให้บริษัทเข้าถึงลูกค้านับล้านๆ รายทั่วโลก
“เรายังได้ใช้ประโยชน์จากบริการ Fulfillment by Amazon หรือ FBA ซึ่งเป็นบริการที่อำนวยความสะดวกด้านการจัดการออร์เดอร์ และโลจิสติกส์ ช่วยให้การจัดส่งสินค้าข้ามประเทศเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถจัดการต้นทุนค่าขนส่งได้ดีขึ้นอีกด้วย เป้าหมายต่อไปของเราคือการขยายธุรกิจไปยังทุกๆ มาร์เก็ตเพลสของอเมซอน”
ส่วนนายนิวัฒน์ เอกรัชดากร เจ้าของแบรนด์วิริสมาหราแบรนด์เสื้อผ้าของไทย ซึ่งได้เริ่มจำหน่ายสินค้าบนอเมซอน และธุรกิจเติบโตขึ้นถึง 50% บอกว่า การทำธุรกิจบนอเมซอน เปิดโอกาสให้บริษัทขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยอเมซอนมีโซลูชั่นครบวงจร ที่ช่วยให้เขาสร้างธุรกิจออนไลน์ระดับโลกได้ง่ายขึ้น
“ผมใช้บริการ FBA ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการออร์เดอร์และวางแผนสต็อกสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ FBA ยังช่วยจัดการเรื่องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายหลักของธุรกิจเสื้อผ้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังชื่นชอบบริการ Amazon Sponsored Product ที่ช่วยให้ลูกค้าพบเห็นสินค้าของเราบนเว็บไซด์และสร้างยอดขายได้มากยิ่งขึ้น”
เช่นเดียวกับนายเปรม สุดสังเกตุ ซีอีโอของ วิลกิ้นส์ คลีนเซอร์ แบรนด์สัญชาติไทยที่ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรองเท้า ที่ระบุว่า ยอดขายจาก อเมซอน ทำให้ธุรกิจของวิลกิ้นส์ เติบโตขึ้นกว่า 30%
“เราพยายามเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเราเชื่อว่าอเมซอน เป็นช่องทางที่สามารถทำให้ธุรกิจของเราเติบโตตามเป้าหมายได้ เรายังพบว่าข้อมูลรีวิวจากการขายสินค้าบน Amazon.com ทำให้เราได้เรียนรู้ความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในสหรัฐอเมริกา เรามีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจบนอเมซอน ด้วยการออกสินค้าใหม่ๆเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า”
ปัจจุบัน ธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าผ่านอเมซอนมาจากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก อเมซอนระบุในจดหมายถึง ผู้ถือหุ้นในปี 2561 ว่าสัดส่วนยอดขายจากการขายสินค้าของธุรกิจเหล่านี้มีการเติบโตขึ้นจาก 3% ในปี 2542 เป็น 58% ในปี 2561 และกลุ่มบริษัทขนาดกลาง และย่อม (เอสเอ็มอี) กว่า 50,000 รายสร้างยอดขายบนอเมซอนได้รายละกว่า 500,000 ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา และเอสเอ็มอีกว่า 200,000 รายสร้างยอดขายได้รายละกว่า 100,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ จำนวนเอสเอ็มอีที่ทำยอดขายเกิน 1 ล้านดอลลาร์ผ่านร้านค้าออนไลน์บนอเมซอนมีการเติบโตกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา