Business

สรรพากรปรับวิธีรีดภาษีดอกเบี้ยฝาก-เจาะข้อมูลลูกค้าทุกบัญชี

สมาคมธนาคารไทย ถกใหม่สรรพากร 25 เม.ย.นี้ ศึกษาข้อกฎหมาย เปลี่ยนประกาศเก็บภาษีดอกเบี้ย หลังสรรพากรยอมถอยเจ้าของเงินฝากไม่ต้องเซ็นยินยอมทุกราย ยกเว้นลูกค้าที่ไม่ให้ส่งข้อมูลต้องเซ็นยินยอม  

ที่สมาคมธนาคารไทย ได้ประชุมคณะทำงานสมาคมธนาคารไทยพร้อมโฆษกกรมสรรพากร เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 344 เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากบัญชีออมทรัพย์

นางสาวชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวหลังประชุมคณะทำงานสมาคมธนาคารไทยว่า จากการที่กรมสรรพากรจะมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร โดยให้ลูกค้าที่ไม่ประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ย ให้กับกรมสรรพากร ต้องเซ็นยินยอมที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลกับธนาคาร หากไม่แจ้งธนาคารจะส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การทำงานของธนาคารพาณิชย์ง่ายขึ้น มีผลกระทบกับลูกค้าน้อยลง

โดยคณะทำงานจะหารือกับกรมสรรพากรอีกครั้งในวันที่ 25 เมษายนนี้ โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมหารือด้วย เพื่อศึกษาแนวทาง ประกาศที่มีการแก้ไขก่อนที่กรมสรรพากรจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

เมื่อได้ข้อสรุปสมาคมจะเเจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ เพื่อเเจ้งต่อไปยังลูกค้าอย่างทั่วถึง”ยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวออกมา มีลูกค้าสอบถามเข้ามาที่แบงก์แต่ละแห่งเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้เพราะต้องรอเกณฑ์ประกาศใหม่ของกรมสรรพากร”

ปัจจุบันบัญชีออมทรัพย์ในระบบประมาณ 80 ล้านบัญชี โดยเฉลี่ย 1 คน เปิดบัญชีออมทรัพย์ประมาณ 3 บัญชี  ผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์เกิน 20,000 บาท มีประมาณ 3 ล้านบัญชี หรือประมาณ 1% ของผู้ฝากเงินทั้งหมด ถือเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี  มีประมาณ 99% ไม่เสียภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์อยู่แล้ว

 

แบงก์

“ต้องขอบคุณกรมสรรพากร ที่ยอมแก้ไขประกาศดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชน 99% ที่มีรายได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาทต่อปี ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่ต้องเสียภาษี15% อยู่แล้ว  แต่จะกระทบเฉพาะผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี มีสัดส่วนประมาณ 1% ” นางสาวชุลีพร กล่าว

นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่าหนึ่งในแนวทางที่มีการหารือร่วมกับกรมสรรพากร คือเลื่อนบังคับใช้ออกไปก่อน ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกว่าจะถูกเก็บภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ หากมีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ไม่ถึง 4 ล้านบาท ก็ไม่ต้องถูกเก็บอยู่แล้ว

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธปท. กล่าวว่า ธปท. รับทราบเรื่องที่มีการหารือ กระบวนการนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าให้กับกรมสรรพากร ซึ่งมีประเด็นของระบบงาน เช่น ระบบ IT ของสถาบันการเงิน ที่อาจต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยน เพื่อให้นำส่งข้อมูลได้ครบถ้วน จึงอาจต้องหารือเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน

แหล่งข่าวจากที่ประชุม กล่าวด้วยว่ากรณีที่กรมสรรพากรได้เสนอให้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่เป็น negative consent จะมีการหารือในประเด็นกฎหมายเพิ่มอีกครั้งว่าทำได้หรือไม่ ขัดกับกฎหมายใดบ้าง เช่น พ.รงบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ กรณีของ negative consent ในช่วง 1 ปี อาจจะสามารถทำได้แต่หลังจากพ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลบังคับใช้จะไม่สามารถทำ negative consent ได้ เพราะกฎหมายห้าม

อย่างไรก็ตาม แม้กรมสรรพากรจะเปลี่ยนแก้ไขประกาศใหม่ เป้าหมายสำคัญสรรพากรก็สามารถเข้าถึงข้อมูลทุกคน 100 % เห็นข้อมูลทุกบัญชี ดังนั้นถ้าลูกค้ารายไหนมีรายได้ดอกเบี้ยรวมกันหลายบัญชีเกิน 20,000 บาทต่อปี ก็จะถูกหักภาษี15% อยู่ดี แต่เป็นการดำเนินการโดยสรรพากรจากประกาศเดิมที่ดำเนินการโดยแบงก์ ซึ่งต่อไปทุกแบงก์ต้องจัดส่งข้อมูลรายได้ดอกเบี้ยลูกค้าให้สรรพากรทุกรายโดยอัตโนมัติ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight