บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าสหรัฐยังคงเดินเกมกดดันทางการค้ากับนานาชาติต่อเนื่อง โดยจุดสนใจคงอยู่ที่แรงกดดันที่มีต่อสหภาพยุโรป (อียู) และจีน หากท่าทีการเจรจาขอผ่อนผันมาตรการเซฟการ์ดสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมระหว่างสหรัฐกับอียูและจีน สามารถบรรลุเงื่อนไขที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกันได้ ก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ก็คงคลี่คลายแรงกดดันต่อประเด็นการค้าโลกได้ ส่วนกรณีเลวร้าย หากอียูและจีนไม่ได้รับการผ่อนผัน อีกทั้งสหรัฐเดินหน้าแผนงานกีดกันการค้ากับจีนรอบใหม่เพิ่มอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางการค้ารอบต่อ ๆ ไป ดึงให้มีสินค้ารายการอื่นเข้ามาอยู่ในวงจรของการกีดกันทางการค้าจนส่งผลกระทบวงกว้างมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ามีโอกาสที่การต่อรองผลประโยชน์ระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่กรณีทั้งอียูและจีน น่าจะเกิดขึ้นและสามารถยุติการลุกลามของการตอบโต้ทางการค้าระหว่างกันได้ แต่ธุรกิจไทยที่เกี่ยวโยงด้านการค้ากับต่างประเทศยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และควรเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะคาดเดาผลลัพธ์
สำหรับภาพการส่งออกของไทยไปตลาดโลกปี 2561 นั้น ยังมีสัญญาณค่อนข้างแข็งแกร่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงประมาณการการขยายตัวของการส่งออกของไทยปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 4.5 และจะรอดูความคืบหน้าจากเกมการค้าโลกนี้เพื่อประเมินผลกระทบต่อการส่งออกและธุรกิจไทยต่อไป
