Politics

มีหลักฐาน!! ‘ปิยบุตร’ ยันโอนหุ้นสื่อ ‘ธนาธร’ ถูกต้อง ไม่กระทบพรรค

“ปิยบุตร” ยัน “ธนาธร” โอนหุ้นสื่อถูกต้องตามกฎหมาย ลั่นมีหลักฐานครบถ้วน พร้อมฝากบางสื่ออย่าพยายามสร้างและนำเสนอข่าวเท็จ

ปิยบุตร แถลง2 e1555912043255

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวถึงสื่อบางสำนักพยายามขุดคุ้ยและทำให้เรื่องไม่จริงกลายเป็นเรื่องจริงในสังคม กรณีการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ยืนยันว่า การโอนหุ้นสื่อในครั้งนี้เป็นการโอนหุ้นตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 นายธนาธรพร้อมภรรยา ได้โอนหุ้นที่ถือให้นางสถาพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด เนื่องจากจะเข้าสู่สนามการเมือง และต้องเคลียร์ตัวเองตามกฎหมายคือ ผู้สมัคร ส.ส. ห้ามมีหุ้นสื่อโดยเด็ดขาดเพื่อป้องกันการครอบงำสื่อในการนำเสนอข่าว

ทั้งนี้ มีหลักฐานการโอน เช็คการจ่ายเงิน ตราสารการโอนหุ้น และใบหุ้นที่แสดงว่ามีการโอนจริง ที่สามารถยืนยันกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ ซึ่ง นายธนาธร พยายามจะปิดบริษัทดังกล่าวตั้งแต่ปี 2561 แต่เนื่องจากมีหนี้คงค้างอีก 11 ล้านบาท ทางฝ่ายบัญชีจึงแนะนำให้เก็บหนี้ตรงนี้ก่อนเพื่อผลประโยชน์ ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าในวันดังกล่าวนายธนาธรไปหาเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่มีการลงนามรายชื่อการโอนหุ้นวันนั้น ยืนยันว่าวันดังกล่าวนายธนาธรได้ไปหาเสียงจริง แต่ในเวลา 13.00 น. ได้เดินทางกลับมาก่อน และให้ตนหาเสียงแทน เนื่องจากต้องการเคลียร์เรื่องหุ้นให้จบ และได้เดินทางมาถึงกรุงเทพ เมื่อเวลา 15.00 น. ซึ่งมีหลักฐานใบเสร็จค่าทางด่วนที่เดินทางด้วย เมื่อมาถึงนายธนาธรได้ดำเนินการโอนหุ้นทั้งหมดก่อนจะพักที่กรุงเทพหนึ่งคืน จากนั้นในวันที่ 9 มกราคม ได้เดินทางไปหาเสียงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อในเวลา 07.00 น.

ปิยบุตร แถลง3 e1555912082929

“ต่อมาวันที่ 14 มกราคม นางสมพร ได้โอนหุ้นส่วนหนึ่งไปให้นายทวี และนายปิติ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีศักดิ์เป็นหลาน เพื่อให้เรียนรู้การบริการธุรกิจในการเรียกคืนหนี้ แต่ผลปรากฏว่าในวันที่ 18 มีนาคม ที่ประชุมผู้บริหารพบว่าหนี้กว่า 11 ล้านนั้นเป็นหนี้เสียไม่สามารถเรียกคืน วันที่ 19 มีนาคม จึงมีมติให้ปิดบรัษัท นายทวีและนายปิติจึงได้โอนหุ้นกลับคืนให้นางสถาพร เพื่อบริหารก่อนปิดบริษัทเพื่อความสะดวกในการดำเนินการ และได้แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการปิดบริษัทในวันที่ 22 มีนาคม ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องแจ้งภายใน 15 วัน”

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีผลต่อนายธนาธร หรือพรรคแน่นอน และมั่นใจในการตรวจสอบของ กกต. ที่จะให้ความยุติธรรม และขอโอกาสให้นายธนาธรได้มีโอกาสขี้แจงข้อเท็จจริงกับ กกต. ก่อนจะชี้มูลด้วย เพราะมองว่าเรื่องนี้ควรจบไปตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากนายธนาธรเคยชี้แจงไปแล้ว และบริษัทก็ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อจริง จึงไม่มีผลต่อการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

ปิยบุตร แถลง4 e1555912129252

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า จึงขอฝากไปยังสื่อบางสำนักที่พยายามขุดคุ้ยสร้างข่าวเท็จให้เป็นข่าวจริงในสังคม อย่าพยายามสร้างให้ตน นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่เป็นปีศาจในสังคม สื่อมวลชนควรนำเสนอข่าวบนเสรีภาพและข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอให้ประชาชนได้เข้าใจรับทราบความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่นำเสนอเรื่องไม่จริงให้สังคมเข้าใจว่าเป็นความจริง

วันเดียวกัน นายวรวุฒิ บุตรมาตร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคอนาคตใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอชี้แจงการโอนหุ้นสื่อของนายธนาธร ใน 2 ประเด็น คือ หนังสือเกี่ยวกับการโอนหุ้นส่วนของนายธนาธร และจะขอเข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต. ในวันนี้ (22เม.ย.) เนื่องจากทราบมาว่า กกต.เร่งปิดสำนวนการไต่ส่วนในกรณีดังกล่าว จึงเกรงว่าอาจไม่ทันต่อการชี้แจงและเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight