ย้อนไปเมื่อปี 1989 เด็กวัยรุ่นในสมัยนั้น ต้องจำได้ว่ามีเครื่องเล่นเกมส์แบบมือถือ เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ชื่อว่า “Game Boy” ที่มีคอนโชลควบคุม คล้ายสวิทช์ขนาดเล็ก ที่ออกมาสร้างปรากฏการณ์ และตำนานของการเล่นเกมส์ เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของการเล่นในยุคนั้น ที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของการเล่นเกมส์มาจนถึงปัจจุบัน ครบ 30 ปีพอดี
หลังจากนั้น 2 – 3 เดือน “Game Boy” ได้ถูกนำไปเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป และภายในเวลา 1 ปี เจ้ากล่องเกมส์สีเทา ก็กลายเป็นอุปกรณ์ที่สร้างความสนุกสนานและความบันเทิงได้เป็นอย่างดี
การเปิดตัวเกมต่างๆ ประสบความสำเร็จมาก เช่น เกมคลาสสิคอย่าง Super Mario Land และ Tetris ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป นับเป็นเกมที่ดึงดูดความสนใจของนักเล่นเกมรุ่นเยาว์ในเวลานั้น
“Game Boy” ได้เปิดโลกใหม่ของการเล่นเกมส์ ให้กับกลุ่มประชากรที่มีอายุน้อย ก็สามารถมาเป็นนักเล่นเกมได้ เป็นที่นิยมมากจนไม่น่าแปลกใจที่ซีรี่ส์เกม เช่น โปเกมอน ได้ถูกปล่อยออกมาสำหรับเครื่องเล่นเกมรุ่นนี้
ไม่เพียงแต่ซีรีย์อย่างโปเกมอนเท่านั้นที่เริ่มจาก Game Boy แต่ยังมีการใช้งานมาอย่างยาวนานในแบบแฟรนไชส์ เช่น เกม Super Robot Wars ด้วยการเป็น Super Robot Wars T จนถึงล่าสุดที่มีอยู่ใน PlayStation 4 และ Nintendo Switch
“Game Boy” ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้พัฒนาเกม เจาะลึกและมุ่งเน้นไปที่การทำให้เกมเล่นได้ดีขึ้น เนื่องจากกราฟิกที่ “Game Boy” ไม่สามารถทำได้ทั้งหมดเมื่อเทียบกับทีวีคอนโซลในเรื่องของเวลา ผลที่ได้จากการมุ่งเน้นในการพัฒนาการเล่นเกมนี้ ได้สร้างตำนานเกมที่ดีที่สุด ที่มีระบบคอนโซล ให้กับห้องสมุดของการเล่นเกม
ผู้เขียนเองในสมัยที่เป็นวัยรุ่น ก็เล่น “Game Boy” เช่นกัน และยังคงสนุกกับเกมคลาสสิคเหล่านั้น แม้ว่าวันนี้จะสามารถเล่นกับอุปกรณ์อื่นๆได้แล้ว แต่เครื่องเล่น “Game Boy” ในวัยเด็กก็ยังอยู่ในความทรงจำ กับคอนโซลปุ่มกด 4 ทิศทาง ปุ่มกด A และ B ไว้สำหรับกระโดด
ดังนั้นหากคุณสงสัยว่าทำไม เครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง Nintendo Switch จึงยังได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คือรากฐานที่มาจาก “Game Boy” เมื่อสามสิบปีก่อนนั่นเอง