“ปิยบุตร” ชี้มีกลุ่มเก่าต้องการให้บ้านเมืองถึงทางตันเพราะกลัวเสียอำนาจ ย้ำ “กกต.” ควรตัดสินใจคำนวณ “ส.ส. ปาร์ตีลิสต์”เอง ก่อนโยนศาลรัฐธรรมนูญตีความ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งสรุปใบเหลือง ใบแดง เพราะหากล่าช้าอาจส่งผลต่อการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 9 พฤษภาคม เนื่องด้วยขณะนี้คะแนนทั้งหมดนับเสร็จแล้ว ว่าที่ ส.ส. มีหมดแล้ว อีกทั้ง กรอบ 60 วันให้รับรอง ซึ่งระหว่างนี้ก็มีเรื่องร้องเรียนขึ้นมา
ทั้งนี้ ถ้า กกต. แจกใบเหลือง ใบแดง แล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ทำกันช่วงนี้ เมื่อมีสภาแล้วยังมีปัญหาก็ตามสอยออก ซึ่งสมัยก่อนก็เป็นแบบนี้ สามารถเปิดประชุมสภาได้ ดังนั้น ภาพรวมมีความพยายามคิดไปให้ถึงทางตัน โดยก่อนการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 ก็พูดตลอดว่าถึงทางตัน เพื่อหวังใช้อำนาจพิเศษจากรัฐประหาร
“งวดนี้ก็อีก ไปต่อไม่ได้ เดี๋ยวจะถึงทางตัน กติกาที่คุณก็เขียน แล้วจะดึงไปถึงทางตันทำไม ต่อให้ถึงทางตันที่สุด คือ เปิดสภาไปแล้วรัฐบาลอยู่ไม่ได้ ทางออกคือยุบสภา หลักสากลเป็นแบบนี้ ต้องกลับมาตั้งหลักให้ได้ คนกลุ่มหนึ่งยังมีวิธีคิดเมื่อตัวเองเสียอำนาจแล้วจะบอกว่าบ้านเมืองถึงทางตัน เพื่อตัวเองได้ครองอำนาจต่อ ถ้ามีอำนาจก็บอกไม่มีทางตัน”
ส่วนกรณีที่ กกต. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อนั้น เพราะรัฐธรรมนูญถูกออกแบบให้ทุกองค์กรมีอำนาจใช้และตีความ ซึ่งการใช้และตีความไม่ได้ผูกขาดอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการใช้และตีความมาตรานี้อยู่ในอำนาจ กกต. ดังนั้น กกต. ต้องตัดสินใจเองว่าคำนวณ ส.ส. แล้วจะได้กี่คน หรือกี่คะแนน
เลขาธิการพรรค กล่าวด้วยว่า การส่งไปจึงเห็นว่าผิด และถ้าทำกันต่อแบบนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นซุปเปอร์รัฐธรรมนูญ ผูกขาดการตีความรัฐธรรมนูญทั้งหมด ซึ่งผิดระบบ ทำให้เสียระบบการแบ่งแยกอำนาจ ขณะเดียวกัน มาตรานี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร หากอ่านตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบจะพบว่าเขียนชัด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยืนยันไม่มีสูตรคำนวณอื่น จึงอยากให้ปิดตาก่อน อย่ามองว่าพรรคไหนได้เท่าไหร่ หากเดินตามวงเล็บก็จะออกมาแบบนี้ ถัวกัน 71,000 คะแนน จะมี ส.ส. พรรคที่ไม่ถึงต้องถูกตัดออกจากการคำนวณ ปัญหาต้องเกิดก่อนแล้วมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าขัด แต่กกต.มีอำนาจคุมการเลือกตั้งยังไม่วินิจฉัย ดังนั้น ต้องวินิจฉัยก่อน
ที่มาภาพจากเฟซบุ๊ค Piyabutr Saengkanokkul-ปิยบุตร แสงกนกกุล
