จากคำพิพากษา ศาลปกครองกลาง ในคดีพิพาทระหว่าง ไทยทีวี และ กสทช. ที่สรุปใจความสำคัญได้ว่า ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล “ขอบอกเลิกประกอบกิจการได้” เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้วไม่มีหน้าที่ ชำระค่าใบอนุญาตหลังจากบอกเลิก และให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันงวดที่เหลือ
ในการประมูลทีวีดิจิทัล ช่วงเดือน ธันวาคม 2556 จำนวน 24 ช่อง ได้เงินประมูลรวม 50,862 ล้านบาท โดยประกาศฯ กสทช. กำหนดให้แบ่งจ่ายเงินค่าประมูลรวม 6 งวด หรือ 6 ปี ทุกเดือน พฤษภาคม หลังจากนั้นในปี 2559 คสช. มีคำสั่ง มาตรา 44 ขยายเวลาจ่ายออกไปอีก 3 ปี รวมเป็นชำระ 9 งวด
มาดูกันว่าถึงขณะนี้ ที่มีคำพิพากษา คดีไทยทีวี มาเป็นทางเลือก ให้ผู้รับใบอนุญาต คืนใบอนุญาตได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินงวดที่เหลือ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้จ่ายเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ไปแล้วเท่าไร
โดยยอดเงินประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่อง เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จะอยู่ที่ 54,422 ล้านบาท
ปัจจุบันยอดชำระแล้ว 4 งวด อยู่ที่ 35,330 ล้านบาท คิดเป็น 64.92%
ยอดคงเหลือที่ต้องชำระ อยู่ที่ 18,016 ล้านบาท คิดเป็น 33.10%
ยอดของบริษัทที่ถูกเพิกถอน (ไทยทีวี) อยู่ที่ 1,075 ล้านบาท คิดเป็น 1.98%
สำหรับยอดที่ได้รับการชำระแล้ว จำนวน 35,330 ล้านบาท รวม 64.92% เป็นแบ่ง 4 งวด
งวดที่1 ปี 2557 จำนวน 11,943 ล้านบาท สัดส่วน 21.95%
งวดที่2 ปี 2558 จำนวน 8,692 ล้านบาท สัดส่วน 15.97%
งวดที่3 ปี 2559 จำนวน 9,259 ล้านบาท สัดส่วน 17,01%
งวดที่4 ปี 2560 (คสช.งวดที่1) 5,434 ล้านบาท สัดส่วน 9.99%
สำหรับยอดคงเหลือที่ต้องชำระ จำนวน 18,016 ล้านบาท สัดส่วน 33.10% รวม 5 งวด
งวดที่5 (คสช.งวดที่ 2) ปี 2561 จำนวน 5,144 ล้านบาท สัดส่วน 9.45%
งวดที่6 (คสช.งวดที่ 3) ปี 2562 จำนวน 4,496 ล้านบาท สัดส่วน 8.26%
งวดที่7 (คสช.งวดที่ 4) ปี 2563 จำนวน 2,791 ล้านบาท สัดส่วน 5.13%
งวดที่8 (คสช.งวดที่ 5) ปี 2564 จำนวน 2,791 ล้านบาท สัดส่วน 5.13%
งวดที่9 (คสช.งวดที่ 6) ปี 2565 จำนวน 2,791 ล้านบาท สัดส่วน 5.13%
ที่มา: สำนักงานกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล กสทช.