Business

คอนโดตลาดกลาง-บนดีมานด์‘สูง’

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบันยังเติบโตอย่างน่าสนใจแม้จะมีบางทำเลที่มีผู้ประกอบการเข้าไปแข่งขันกันค่อนข้างมากจนทำให้การดูดซับเริ่มทรงตัว

Plus Aunkul 2 2
อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ

แต่ปีที่ผ่านมาพบว่า จากอุปทานเสนอขายห้องชุด จำนวน 1.21 แสนยูนิต อุปสงค์ให้การตอบรับแล้ว 6.82 หมื่นยูนิต ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13% หรือเพิ่มขึ้น 9,228 ยูนิต จากปีก่อน ซึ่งยอดขายได้ในรอบนี้ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกช่วงราคา มาจากทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น และหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มลดลง

คอนโดกรุงเทพฯชั้นในดูดซับดี

สำหรับสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน โซนเพลินจิต-ชิดลม-สีลม-สาทร-สุขุมวิท มีจำนวนทั้งสิ้น 1.11 หมื่นยูนิต มีอัตราการดูดซับ 45% ยังมีการตอบรับสูง โดยโครงการที่มีอุปสงค์อยู่ในระดับสูงจะเป็นโครงการในช่วงระดับราคากลาง-บน ราคาขายเฉลี่ย 1.3-1.6 แสน บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการดูดซับดี

ในทำเลสุขุมวิทพบว่า โครงการระดับราคา 1.6- 4 แสนบาทต่อตารางเมตร ประเมินว่าจะสามารถปิดการขายได้ในระยะเวลาเพียง 3-4.5 เดือน เร็วกว่าค่าเฉลี่ยที่ 5.5 เดือน เนื่องจากในทำเลดังกล่าวเหลือพื้นที่พัฒนาโครงการไม่มาก แต่ยังมีความต้องการซื้อสูง โครงการในระดับราคาดังกล่าวที่เข้าสู่ตลาดจึงได้รับการตอบรับที่ดี

info graphic

ทางด้านพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง โซนพหลโยธิน-พญาไท-พระราม 3-รัชดา มีจำนวน 1.78 หมื่นยูนิต มีอัตราการดูดซับ 47% พบอุปสงค์ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับกลาง ราคา 7 หมื่น-1.6 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งคอนโดมิเนียมในโซนกรุงเทพฯ ชั้นกลาง ประเมินว่าจะใช้เวลาเฉลี่ยปิดการขายภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน

โซนพหลฯดีมานด์สูง

โดยทำเลพหลโยธินพบว่าคอนโดมิเนียมที่มีอุปสงค์สูงจะเป็นโครงการในช่วงราคา 1.3- 2 แสนบาทต่อตารางเมตร ส่วนคอนโดมิเนียมย่านรัชดาภิเษกโครงการที่มีอุปสงค์สูงจะอยู่ในช่วงราคา 1 – 1.6 แสนบาทต่อตารางเมตร แต่โครงการระดับกลาง-บน ในราคา 1.3 – 1.6 แสนบาทต่อตารางเมตร พบว่าเป็นที่น่าจับตามอง

เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่บริเวณตามแนวรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล ที่จะมีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มเติมตัดเชื่อมผ่านสถานีศูนย์วัฒนธรรม ทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร และยังอยู่ในทำเลที่มีทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และในอนาคตจะมีอาคารสูงที่คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของประเทศ จึงมีความต้องการซื้อทั้งเพื่ออยู่เองและเพื่อการลงทุน โครงการในระดับราคาดังกล่าวจึงมีดีมานด์ตอบรับดี จากการประเมินจะสามารถขายหมดได้เร็วกว่าค่าเฉลี่ย คือสามารถปิดการขายได้ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

พื้นที่ชั้นนอกตอบรับ 5หมื่น-1แสนบาท/ตร.ม.

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอก ธนบุรี-สุขุมวิทรอบนอก-บางซื่อ-มีนบุรี-นนทบุรี-พระราม 2-รามคำแหง-สุวรรณภูมิ มีจำนวน 1.8 หมื่นยูนิต มีอัตราการดูดซับ 43% โดยโซนสุขุมวิทรอบนอก พบว่ามีอุปสงค์ตอบรับในโครงการระดับกลาง คือราคา 5 หมื่น – 1 แสนบาทต่อตารางเมตร

แต่หากดูจากข้อมูลประเมินจำนวนเดือนที่ควรจะขายหมด พบว่า คอนโดมิเนียมในโครงการระดับกลาง-บนราคา 1.3 – 2 แสนบาทต่อตารางเมตร เป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากทำเลสุขุมวิทรอบนอกกินพื้นที่ค่อนข้างกว้างและศักยภาพแต่ละโซนแตกต่างกัน จึงมีโครงการที่ครอบคลุมหลายระดับราคา  โดยโครงการที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายยังมีจำนวนไม่มากและค่อนข้างกระจุกตัว จึงสามารถทำราคาได้สูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาด ซึ่งมีดีมานด์ตอบรับสูงเช่นกัน ทำให้มีแนวโน้มปิดการขายหมดได้เร็วกว่าอัตราประเมิน คือน่าจะสามารถขายหมดภายใน 5 – 6 เดือน จากอัตราเฉลี่ย 7 เดือน

ปี61ตลาด่างชาติหนุน

สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีแรก 2561 นี้ คาดว่าตลาดจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ส่งผลให้เกิดการลงทุนในฝั่งผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งในอนาคตยังมีการปรับผังเมืองในกรุงเทพฯ ที่ทำให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้เกิดอุปทานใหม่ในตลาด จึงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยในอนาคตคาดว่าจะเกิดโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบใหม่ เช่น โครงการมิกซ์ยูส , คอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับโครงการอีกด้วย

 

 

Avatar photo