การเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารจนไม่สามารถเปิดบัญชี หรือมีบัตรเครดิตได้ไม่เพียงทำให้สถาบันการเงินประสบปัญหาในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล ค้าปลีกอย่างค่าย Amazon ก็เช่นกัน โดยมีรายงานจาก CNBC ว่า Amazon กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเช่น J.P. Morgan Chase เพื่อให้บริการของทางค่ายสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือไม่มีบัญชีกับธนาคารให้สามารถช้อปได้แล้ว
โดยข้อมูลจาก The Pew Charitable Trusts ระบุว่า ปัจจุบัน มีครอบครัวชาวอเมริกันมากกว่า 25% ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือถูกจำกัดการเข้าถึงบริการต่าง ๆ จากธนาคาร ส่งผลให้ครอบครัวเหล่านี้ต้องพึ่งพาเงินสดเป็นหลัก และทำให้ไม่สามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้
อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น The Pew Charitable Trusts พบว่า 6 ใน 10 ของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีสมาร์ทโฟน
การเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้เข้าถึงบริการช้อปปิ้งออนไลน์ได้แม้จะไม่มีบัตรเครดิต หรือมีบริการทางการเงินแบบพิเศษขึ้นมารองรับจึงเป็นช่องทางการเติบโตที่ Amazon หมายมั่นปั้นมือว่าจะผลักดันให้เกิดขึ้นนั่นเอง
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Amazon ต้องหันมาสนใจกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้นเนื่องจากตัวเลขการเติบโตระบบสมาชิก Prime ในไตรมาสที่ 3 ของปีนั้นเริ่มไม่สวยหรู (อ้างอิงจาก Morgan Stanley) ขณะที่ตัวเลขจาก Piper Jaffray เผยว่า 82% ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้มากกว่า 112,000 เหรียญสหรัฐต่อปีนั้น เป็นสมาชิก Prime ของ Amazon กันหมดแล้ว
ตรงกันข้ามกับผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลที่ปัจจุบันเริ่มปฏิเสธเครดิตการ์ด หรือลดการใช้บริการของสถาบันการเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการสำรวจของ Goldman Sachs เมื่อปี 2015 เผยว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า คนกลุ่มนี้ถึง 33% บอกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารอีกต่อไป
ผู้บริโภคทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจนไม่สามารถมีบัตรเครดิต และกลุ่มที่มองว่าบริการทางการเงินเหล่านี้ไม่จำเป็นสำหรับตัวเองในอนาคต ได้ทำให้ Amazon ต้องรีบฉวยโอกาสนี้พัฒนาความสามารถเพื่อรองรับให้ได้โดยไว และหากทำได้ก็จะสามารถย้ายฐานลูกค้าขึ้นมาบนโลกของการช้อปปิ้งออนไลน์โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตอีกต่อไป โดย Amazon มีการพาร์ทเนอร์กับ 7-eleven ให้ลูกค้าใช้เงินในบัญชี Amazon Cash จับจ่ายใช้สอยได้บน Amazon โดยผู้ใช้งานสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ 15 – 500 เหรียญสหรัฐ
ที่มา : CNBC
