ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรอีหร่านอีกครั้ง
ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้นำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
รวมไปถึงการที่ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิต
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเหม็ง กับการที่รัฐบาลซาอุ เดินหน้านำบริษัท “อารามโก้” บริษัทน้ำมันแห่งชาติเข้า
จดทะเบียนในตลาดหุ้น ภายในครึ่งหลังปี 2561
ถือเป็นการกลับเข้าสู่ “ขาขึ้น” รอบใหม่ของราคาน้ำมันในตลาดโลก!!!
“มอร์แกน สแตนลีย์” บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก มองว่าราคาน้ำมันดิบเบรนด์มีโอกาสแตะ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก “ฟื้น”
กลับมายืนที่ระดับ 523 ดอลลาร์/ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ 472 ดอลลาร์/ตัน หรือลดลงกว่า 107.5 ดอลลาร์/ตัน เทียบกับไตรมาส 1/50
บล.บัวหลวง ประเมินว่าหุ้นพลังงาน (น้ำมัน) กลับเข้าสู่ช่วง “ขาขึ้น” อีกครั้ง ตามราคาน้ำมันดับในตลาดโลก โอยมองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์ประกอบด้วย PTTEP PTT และ PTTGC
อีกทั้งยังมองว่าราคาก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีกับอัตราผลกำไรของ SGP ให้กลับเข้าสู่ภาวะ “ปกติ”
และหนุนให้ผลการดำเนินงานของ SGP กลับมาโตแรงอีกครั้งในไตรมาส 2/61 Gross margin ของ SGP ในช่วงเดือนพ.ค.เริ่มฟื้นตัวแล้ว และคาดว่าไตรมาส 2/61 จะกลับเข้าสู่ระดับใกล้เคียง 8-9%
พร้อมกันนี้ บล.บัวหลวง ยังแนะนำ “สะสม” หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ประกอบด้วย TOP BCP IRPC ESSO SPRC ด้วย เนื่องจากคาดราคาค่าการกลั่น จะขยับขึ้นเป็นเงาตามตัว เมื่อราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในรอบนี้
เพราะสต็อกน้ำมันขั้นกลาง Middle distillate เกิดภาวะขาดแคลน หนุนค่าการกลั่นปรับสูงขึ้น
เห็นมั๊ยละในวิกฤติย่อมมีโอกาส!!!!
ไม่ใช่ฉกฉวยสถานการณ์น้ำมันพุ่ง ขอขึ้นค่าโดยสารรอบแล้วรอบเล่า แต่เวลาราคา “น้ำมัน-ก๊าซ” ปรับตัวลดลง ไม่เคยมีการออกมาเคลื่อนไหวลดราคาตามตลาดโลก จริงมั๊ย “เจ๊”
