นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้บริการระบบการโอนเงินพร้อมเพย์ครบ 1 ปี มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ 39 ล้านเลขหมาย เป็นการลงทะเบียนผ่านเลขบัตรประชาชนร้อยละ 66 ผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือร้อยละ 34 มียอดการใช้พร้อมเพย์สะสม 1.1 ล้านรายการ โดยวงเงินที่โอนผ่านระบบพร้อมเพย์เฉลี่ยอยู่ที่ 3,500-3,800 บาท ต่อรายการ ลดลงจาก 6,000-7,000 บาทต่อรายการ สะท้อนถึงมีการใช้พร้อมเพย์ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ขณะที่การใช้ QR code ในชีวิตประจำวัน เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยผู้บริโภคใช้ชำระค่าอาหาร บริการซื้อสินค้าต่าง ๆ เนื่องจากจำนวนร้านค้าที่รับชำระผ่าน QR code ปัจจุบันมีเกือบ 1 ล้านร้านค้า
อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการใช้พร้อมเพย์มากขึ้น โดยเฉพาะบริการพร้อมเพย์สำหรับนิติบุคคลให้เข้ามาใช้บริการ พร้อมกันที่ ธปท.กำชับไปยังบริษัทเนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (ITMX) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูเเลระบบพร้อมเพย์ให้ดูเเลระบบอย่าให้เกิดปัญหาระบบล่มเหมือนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการทำธุรกรรมหนาแน่น
นางสาวสิริธิดา กล่าวด้วยว่า หลังจาก ธปท.เปิดให้เข้าร่วมทดสอบและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อสนับสนุนการให้บริการทางการเงิน หรือ Regulatory sandbox ขณะนี้มีความคืบหน้าในส่วนของ Blockchain ที่กำลังจะก้าวไปสู่เฟส 2 ในการขยายการให้บริการไปสู่หลายผลิตภัณฑ์มากขึ้น หลังจากที่มีการทดลองการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศและกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง biomectric หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ โดยจะมีการสแกนใบหน้าด้วยสมาร์ทโฟน เพื่อยืนยันตัวตน (KYC)
นอกจากนี้ ธปท.จะจัดงาน Bangkok Fintech Fair 2018 ในวันที่ 19 -20 มีนาคม 2561 บริเวณศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์และความรู้เกี่ยวกับ Fintech ขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ต้องการพัฒนาระบบนวัตกรรมทางการเงิน รวมถึงผู้บริโภคให้ได้รู้จักนวัตกรรมทางการเงินที่เป็นประโยชน์ โดยภายในงานจะมีการออกบูธโชว์นวัตกรรมทางการเงินจากสถาบันการเงิน ภาครัฐ รวมถึงบริษัท Fintech ต่าง ๆ
