Economics

ด่วน!! ศาลสั่งห้ามปิดถนนแจ้งวัฒนะ ก่อสร้าง ‘รถไฟฟ้าสายสีชมพู’

ด่วน!! ศาลปกครองกลางสั่ง รฟม. ห้ามปิดถนนแจ้งวัฒนะก่อสร้าง “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” ชี้หนังสืออนุญาตของตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

รถไฟฟ้า สายสีชมพู

รายงานข่าวจากศาลปกครองกลางเปิดเผยว่า วันนี้ (11 เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 539/2562 หมายเลขแดงที่ 403/2562  ห้ามการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กระทำใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรในพื้นราบทุกช่องทาง บนถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าหลักสี่ ตั้งแต่บริเวณเชิงทางขึ้นสะพานข้ามแยกศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถึงบริเวณสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ หรือมีการออกประกาศข้อบังคับจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522

สำหรับคำพิพากษาดังกล่าว สืบเนื่องมาจากคดีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลา ลูน่า ได้ฟ้องร้อง รฟม. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กรณี รฟม. ออกประกาศแจ้งปิดเบี่ยงจราจรพื้นราบทุกช่องทางชั่วคราว บนถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าหลักสี่ ตั้งแต่บริเวณเชิงทางขึ้นสะพานข้ามแยกศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถึงบริเวณสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ เพื่อดำเนินงานตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2562  ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ระหว่างเวลา 22.00-4.00 น.

ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า หนังสือของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลฉบับลงวันที่ 21 มิถุนายน 2561 เป็นเพียงหนังสือสั่งการภายในระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อให้ทราบแผนการใช้ถนนบริเวณพิพาทเพื่อการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู

การที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลใช้หนังสือสั่งการภายในดังกล่าวเป็นหนังสืออนุญาตให้ STEC ดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยที่ไม่ได้ออกหนังสืออนุญาตแก่ รฟม. หรือ STEC โดยตรง จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย

รถไฟฟ้าสายสีชมพู

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเนื้อหาของหนังสือดังกล่าวที่สั่งการให้ปิดเบี่ยงจราจรบนถนนตลอดความยาวของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทาง ด้านขวาชิดเกาะกลาง ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ในพื้นราบ และปิดเบี่ยงเพิ่มอีก 1 ช่องทาง ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกในเวลากลางคืนบนสะพานข้ามแยก ตั้งแต่เวลา 22.00-4.00 น. มีระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2564

การปิดเบี่ยงจราจรดังกล่าวเป็นการห้ามรถทุกชนิดวิ่งในช่องทางที่ปิดจราจร อันเป็นการจำกัดเสรีภาพในการเดินทางของประชาชนบนถนน โดยไม่ระบุเหตุจำเป็นที่ต้องปิดจราจรเฉพาะทางตอนใด เวลาใด ให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการก่อสร้างในพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้มีผลกระทบต่อการใช้ถนนของประชาชนเท่าที่จำเป็น ในแต่ละช่วงเวลา และระยะเวลาที่ขออนุญาตปิดเบี่ยงจราจรเป็นเวลาถึง 2 ปี กับอีก 8 เดือน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการขออนุญาตปิดจราจรเป็นการชั่วคราวตามที่กฎหมายกำหนด

เมื่อหนังสืออนุญาตของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นการจำกัดเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน มิได้เป็นการอนุญาต หรือออกเป็นประกาศ ข้อบังคับให้ถูกต้อง ตามมาตรา 114 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 139 (1) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 แล้วแต่กรณี หนังสืออนุญาตดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น การที่ รฟม. ออกประกาศแจ้งปิดเบี่ยงจราจรพื้นราบดังกล่าวบนถนนแจ้งวัฒนะ โดย รฟม. อ้างถึงการได้รับอนุญาตตามหนังสือของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

ทั้งนี้ ถ้าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะอนุญาตให้ใช้ถนนบริเวณพิพาทได้ และมีผลบังคับใช้ต่อประชาชนผู้ใช้ถนน จะต้องออกประกาศ ข้อบังคับ หรือระเบียบตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้ถนนในทางสายใด หรือเฉพาะทางตอนใดให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการก่อสร้างในแต่ละพื้นที่ แต่ละช่วงเวลา โดยอาจกำหนดเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต้องขออนุญาตเพิ่มเติมเป็นคราวๆ ได้ เพื่อมิให้เป็นการจำกัดเสรีภาพในการเดินทางของประชาชนเกินความจำเป็น และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับเป็นการทั่วไป

Avatar photo