“เจมาร์ท” ปรับกลยุทธ์ใหม่หวังชิงฐานลูกค้า ออกแคมเปญฉลอง 30 ปี รับเปลี่ยน “สมาร์ทโฟน” เครื่องใหม่ที่ลูกค้าไม่พอใจภายใน 30 วัน
นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาด บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ JMART กล่าวว่า ในโอกาสที่บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทดีไวซ์ของกลุ่มเจมาร์ทได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ในปีนี้ บริษัทจึงได้จัดแคมเปญคืนกำไรให้กับลูกค้าภายใต้สโลแกน “เจมาร์ท จัดเต็ม ดูแลเครื่อง ดูแลคุณ ลุ้นโชคใหญ่” โดยบริษัทใช้วงเงินลงทุนด้านการตลาดจำนวน 15 ล้านบาท และคาดว่าจะทำให้ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปีที่เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
แคมเปญดังกล่าวประกอบด้วย การขยายเวลารับประกันความพึงพอใจหรือเครื่องเสีย สามารถเปลี่ยนได้ภายใน 30 วัน จากปกติอยู่ที่ 7 วัน สำหรับลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือในราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน- 9 กรกฎาคม 2562 พร้อมรับฟรีประกันอุบัติเหตุกับเครื่อง คุ้มครองค่าซ่อมสูงสุด 5,000 บาท พร้อมรับฟรีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยมีค่าชดเชยรักษาพยาบาล 2,000 บาทต่อครั้ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอดระยะเวลา 180 วัน
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรารับประกันความพึงพอใจ เปลี่ยนเครื่องได้ใน 30 วัน จากสาเหตุเครื่องเสียและไม่พอใจไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม แต่กรณีที่ลูกค้าไม่พอใจจะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน 10% ของมูลค่าเครื่อง ต้องบอกว่าแม้จะมีค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก เพราะเวลาคนไม่พอใจ มีส่วนหนึ่งก็จะไปถามกันในอินเตอร์เน็ตว่าขายมือถือที่ไหนดี ส่วนใหญ่ก็ได้ฟีดแบคว่าโดนร้านทั่วไปกดราคาตั้งแต่ 30-50% หลังจากเรากรีดกล่องไปแล้ว การเปลี่ยนเครื่องด้วยค่าใช้จ่ายแค่ 10% จึงเป็นเรื่องที่ competitive และลูกค้าก็ไม่ต้องเสี่ยงในการเอาเครื่องไปขายเอง” นายนราธิปกล่าว
นอกจากนี้ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ลุ้นทองคำหนักรวม 30 บาท โดยการจับรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ และเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับลูกค้าบัตรสมาชิก Enjoy Card ในวันที่ 30 ของเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน จะได้รับคะแนนสะสมแบบคูณ 30 ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป ด้านลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบ 2 หมื่นบาท รับฟรีทันที 30 เหรียญ JFIN โดยสามารถนำ 30 JFIN มาแลกรับอุปกรณ์เสริมได้ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมการประมูลสมาร์ทโฟนอีก 30 เครื่อง โดยจะเริ่มการประมูลวันแรกในวันที่ 9 เมษายน ผ่านแอพพลิเคชั่น VFIN
ไตรมาส 1 ตลาดหดตัว
นายนราธิป กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามยอมรับว่าในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ตลาดหดตัวจากหลายปัจจัย ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ซบเซา สินค้ารุ่นใหม่ยังไม่เปิดตัว เพราะส่วนใหญ่จะเปิดตัวตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป และยังมีความกังวลต่อประเด็นการเมืองเล็กน้อย
แต่ในเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ ยอดเริ่มดีขึ้นและกำลังซื้อเริ่มกลับมา แต่ตลาดก็ไม่ได้เติบโตมากนัก โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลัก 50% มาจากยอดขายโทรศัพท์มือถือราคาระหว่าง 5,000-10,000 บาทต่อเครื่อง
ส่งกองทัพมดบุกตลาดภูธร
นายนราธิป กล่าวถึงกลยุทธ์ของบริษัทว่า บริษัทจะไม่เน้นขยายสาขา เพราะวันนี้ธุรกิจค้าปลีกต้องรับภาระต้นทุนสูง เจมาร์ทจึงจะเน้นขยายเฉพาะในส่วนที่มีศักยภาพเท่านั้น ขณะเดียวกันได้ตั้งงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงหน้าร้าน 50 แห่ง จากทั้งหมด 200 แห่งให้ดูโมเดิร์นและสวยงามมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มพื้นที่จำหน่ายผลิตเสริม เช่น แบรนด์ Mi เพื่อให้พัฒนาให้ร้านกลายเป็น Gadget Destination มากขึ้น
ขณะเดียวกันได้สร้างข้อเสนอพิเศษเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์ด้านการประกันตัวเครื่องและการคุ้มครองผู้ซื้อ ซึ่งไม่มีใครทำได้ หรือถ้าทำได้ก็ต้องใช้วงเงินลงทุนที่สูงมาก แต่เจมาร์ทสามารถทำได้ เพราะมีบริษัทประกันภัยอยู่ในเครือ รวมถึงได้ตั้งงบประมาณไตรมาสละ 15 ล้านบาทเพื่อลงทุนจัดกิจกรรมทางการตลาดในแต่ละไตรมาสด้วย
นอกจากนี้ เจมาร์ทยังมีเป้าหมายจะเจาะตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่ามีบางพื้นที่ที่ตลาดยังอ่อนแออยู่ ตอนนี้บริษัทจึงได้พัฒนาทีมงานขายตรง 50 ชีวิตเข้าไปทำงานในตลาดและชุมชน เริ่มจากหัวเมืองใหญ่ๆ ก่อน ซึ่งปัจจุบันสร้างรายได้เดือนละ 10 ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตจะขยายตัวได้อีก
