COLUMNISTS

‘จำนวน’ กับ ‘ความเชื่อมั่น’

Avatar photo
จิตติศักดิ์ นันทพานิช จุดตัดความคิด
530

กระแสการเมืองสัปดาห์ที่แล้วเข้มข้นขึ้นอย่างฉับพลัน หลัง “พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์” ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาพูดเรื่องบ้านเมือง ด้วยภาษาไม่ต้องตีความ และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังตกเป็นเป้าวิจารณ์เรื่อง สูตรคณิตศาสตร์ ในการคำนวณหาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และวิธีการทำงาน อย่างต่อเนื่อง และมีผลสำรวจความเชื่อมั่นเผยแพร่ออกมา 2 ชุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ เช่นกัน

ชุดแรกคือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือนมีนาคม ของ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ส่วนอีกชุด ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ประจำเดือนมีนาคม เช่นกัน ของแบงก์ชาติ ทั้ง 2 ชุด สะท้อนความรับรู้ของ ผู้บริโภค และ คนทำธุรกิจ ต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคต

6509

อาจารย์ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯ แถลงว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการปรับลดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ซึ่งไล่เรียงผลสำรวจ ความเชื่อมั่นในเดือนมีนาคมกับเดือนก่อนหน้า โดยสังเขปได้ดังนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคม อยู่ที่ 80.6 ลดลงจาก 82.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปัจจุบัน อยู่ที่ 54.6 ลดลงจาก 55.7 ในเดือนก่อนหน้า ดัชนีความมั่นอนาคตอยู่ที่ 92.9 ลดลงจาก 93. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจอยู่ที่ 67.6 ลดลงจาก 69.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 75.8 ลดลงจาก 77.1 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 98.4 ลดลงจาก 99.7 ฯลฯ

อาจารย์ธนวรรธน์ บอกว่า มีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ ที่ทำให้ชุดดัชนีดังกล่าวลดลงโดยพร้อมเพรียงกัน

  • หนึ่ง ประชาชนไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้ง
  • สอง การหาเสียงเงินไม่สะพัดตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า คือระหว่าง 30,000-50,000 ล้านบาท เนื่องจากนักการเมืองไม่กล้าทุ่มสุดตัว เพราะกังวลว่าอาจจะมีการเลือกตั้งใหม่
  • สาม คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เหลือ 3.8 % จากที่คาดการณ์ไว้เดิม 4 %

ตัวเลขอีกชุด ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ที่สำรวจในเดือ มีนาคม ของแบงก์ชาติ ผลสำรวจชุดนี้ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ภาคการผลิต ปรับดีขึ้นตาม ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ และต้นทุนเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มีคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงคำสั่งซื้อ กลุ่มปิโตรเลียม และเคมีภัณฑ์ ที่ขยับตามการลงทุนของภาครัฐ และเอกชนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฯลฯ

แต่ผลสำรวจความเชื่อมั่นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีปรับลงมาอยู่ที่ 53.6 จาก 55.5 ในเดือนก่อนหน้า ถึงความเชื่อมั่นในอนาคตจะลดลง แต่แบงก์ชาติมองในแง่ดีว่า ยังสะท้อนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

vdoPoster

สรุป คือผลสำรวจดัชนีประจำเดือนมีนาคม ทั้ง 2 ชุด ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคแผ่วลง เพราะ การเมือง เป็นปัจจัยลัก ส่วนความเชื่อมั่นธุรกิจยังพอไปได้ แต่ 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบชักไม่แน่ใจแล้วว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

แล้วเดือนนี้เมษายน ความเชื่อมั่นจะไปทางไหน คำตอบสำหรับคำถามนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองในช่วงเดือนเมษายนที่เหลือว่า จะระทึกเหมือนสัปดาห์แรก หรือ คลายตัวลง ส่วนวงล้อสถานการณ์หมุนแล้ว จะไปตกช่องไหนระหว่าง ระทึก กับ คลายตัว นั้น ขึ้นอยู่กับ สูตรในการคำนวณ หาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ กกต. จะประกาศ เร็วๆนี้ จะได้รับการยอมจากทุกฝ่ายหรือไม่

นอกจากนี้ยังสัมพันธ์ กับจำนวนครั้งของกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกมาแสดงจุดยืนจะมีเพิ่มขึ้นหรือไม่ มีการระดมล่าชื่อถอดถอนบุคคลเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ จดหมายเปิดผนึกของบรรดาอาจารย์เพิ่มขึ้นอีก หรือไม่ ฯลฯ

“จำนวน” ที่กล่าวข้างต้น สัมพันธ์กับอาการสถานการณ์การเมืองว่า จะวูบไหว หรือ นิ่ง ซึ่งผูกโยงถึงความเชื่อมั่นโดยตรง