“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ต่อไปหลังพลิกจากโดนเซาธ์แฮมป์ตันนำก่อนแต่แซงเอาชนะได้แบบสนุก 3-1 ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่แข่งมากกว่า 1 นัด และนี่คือสถิติและเดร็กที่น่าสนใจหลังเกมเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ลิเวอร์พูล เอาชนะเซาธ์แฮมป์ตันได้ในพรีเมียร์ลีก 4 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
- เซาธ์แฮมป์ตัน เก็บชัยได้เพียงแค่ 1 ครั้งจากทั้งหมด 6 เกมในเกมที่ลงเล่นวันศุกร์แถมยังพ่ายแพ้ 3 ใน 4 เกมหลังสุดด้วย (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3)
- ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ 7 จาก 8 เกมหลังสุดที่เสียประตูก่อน
- หงส์แดง ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งแต่สามารถกลับมาเก็บแต้มได้มากถึง 16 แต้ม ซึ่งมากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีกซีซันนี้
- เซาธ์แฮมป์ตัน ขึ้นนำคู่แข่งได้ในซีซันนี้แต่กลับทำแต้มหล่นหายไปถึง 23 แต้ม มากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้
- เชน ลอง เป็นนักเตะไอร์แลนด์ลำดับที่ 4 ที่ยิงครบ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีก โดย 3 คนก่อนหน้านี้คือ ร็อบบี้ คีน (126 ประตู), ไนออล ควินน์ (59 ประตู) และ เดเมียน ดัฟฟ์ (54 ประตู)
- จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นนักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองแล้วยิงประตู, ทำแอสซิสต์ และเสียใบเหลือง นับตั้งแต่ กราเซียโน่ เปลเล่ ทำได้เมื่อเดือน พฤษภาคม 2016
- นาบี เกต้า ยิงประตูแรกของตัวเองในพรีเมียร์ลีก จากความพยายามทั้งหมด 23 ครั้งในฤดูกาลนี้
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นเพียงนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ยิงประตูได้ทั้งสามเกมที่ลงเล่นในวันศุกร์ โดยก่อนหน้านี้ เธียร์รี่ อองรี สามารถซัดประตูได้ถึง 4 เกมติดในวันศุกร์เช่นกัน
- เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 5 ที่ลงสนามครบ 50 นัดในพรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 20 ปี 180 วัน (อันดับ 1 ไมเคิ่ล โอเว่น – 18 ปี 328 วัน / อันดับ 2 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 19 ปี 83 วัน / อันดับ 3 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ – 19 ปี 266 วัน และอันดับ 4 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด – 20 ปี 152 วัน)
- หงส์แดง เสียประตูครบ 5000 ลูกนับตั้งแต่สโมสรก่อตั้งมา ซึ่งเป็นทีมที่ 7 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน แมนฯซิตี้ แอสตัน วิลล่า นิวคาสเซิล ซันเดอร์แลนด์ และ อาร์เซนอล
