Business

กรมพัฒน์ฯ เชื่อมเครือข่ายเอสเอ็มอี 6 ภูมิภาค

saroje
นายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้พัฒนารูปแบบธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางการค้า ภายใต้โครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และย่อม (เอสเอ็มอี)  และวิสาหกิจชุมชนด้วยการลงพื้นที่จริง เพื่อศึกษา วิเคราะห์กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาค

พร้อมกันนี้ ยังผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงกันในรูปแบบเครือข่ายคลัสเตอร์ และร่วมจัดทำระบบการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาด การจัดทำแผนพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์ให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง มุ่งสร้างผลประโยชน์อย่างยั่งยืน ให้แก่เศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

ผลจากการดำเนินโครงการ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจในรูปแบบเครือข่ายคลัสเตอร์ของแต่ละพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ รวม 6 ภูมิภาค

คลัสเตอร์ในพื้นที่เป้าหมาย

  • คลัสเตอร์สิ่งทอ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • คลัสเตอร์อาหารออร์แกนิค ของภาคเหนือ
  • คลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของภาคกลาง
  • คลัสเตอร์ท่องเที่ยวชุมชน ของภาคตะวันออก
  • คลัสเตอร์แปรรูปยางพารา ของภาคใต้
  • คลัสเตอร์แปรรูปอาหารฮาลาล ของภาคใต้ชายแดน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดหวังให้เครือข่ายคลัสเตอร์เหล่านี้ เกิดการผนึกกำลังสร้างความเข้มแข็งจากภายในคลัสเตอร์เดียวกัน และได้รับการพัฒนาจากภายนอก เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าร่วมกัน ซึ่งกรมพร้อมให้การสนับสนุนโดยจัดส่งกลุ่มพี่เลี้ยงเอสเอ็มอี  ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และได้รับการพัฒนาทักษะและศักยภาพจากกรมฯ ลงไปให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ทั้งในการจัดงาน “HAPPI DBD CLUSTER” เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเวทีให้เครือข่ายคลัสเตอร์ทั้ง 6 ภูมิภาคมาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง แนวความคิด รูปแบบ วิธีการ และแผนการดำเนินงานระหว่างกัน

งานดังกล่าวมุ่งเน้นการเชื่อมโยงในส่วนภูมิภาคให้เกิดความเข้มแข็ง และช่วยสร้างโอกาสทางการค้า ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

อีกทั้งเป็นการสร้างเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนไทยให้เป็นนักการค้ามืออาชีพ ที่มีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจสมัยใหม่ มีความเป็นผู้นำ มองเห็นความแตกต่าง และรู้จักนำเทคโนโลยีสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด ตลอดจนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล

ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน จะได้รับการพัฒนาศักยภาพให้เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศ และก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับสากลต่อไป


Add Friend

Avatar photo