รัฐบาลของประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนารายใหญ่ เปิดตัว “กองทุนการเงินสีเขียวอาเซียน” (ASEAN Catalytic Green Finance Facility) ซึ่งเป็นกองทุนริเริ่มใหม่ ตั้งเป้าระดมทุนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในพิธีเปิดตัวกองทุนครั้งนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย และ นายทาเคฮิโกะ นาคาโอะ ประธานเอดีบี ได้ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากประเทศอาเซียน และหุ้นส่วนต่างๆ จากภาคเอกชน
กองทุนการเงินที่ริเริ่มขึ้นใหม่จะจัดสรรเงินกู้และความช่วยเหลือทางวิชาการสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวของภาครัฐ เช่น การขนส่งแบบยั่งยืน การพัฒนาพลังงานสะอาด และระบบน้ำที่มีความยืดหยุ่น โดยมุ่งหวังที่จะกระตุ้นเงินทุนจากภาคเอกชน ด้วยการลดความเสี่ยงผ่านโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงินต่างๆ
ภายใต้แผนที่วางไว้ กองทุนนี้ จะระดมทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านดอลลาร์ ประกอบไปด้วยการระดมทุนจำนวน 75 ล้านดอลลาร์ จากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (เอไอเอฟ) 300 ล้านดอลลาร์ จากเอดีบี 300 ล้านยูโร จากธนาคารพัฒนาเยอรมนี 150 ล้านยูโร จากธนาคารพัฒนายุโรป และ 150 ล้านยูโร องค์กรเพื่อการพัฒนาแห่งฝรั่งเศส
ขณะเดียวกันองค์การเพื่อความร่วมมือ และพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) และสถาบันเพื่อการเติบโตสีเขียวโลก จะสนับสนุนการแบ่งปันองค์ความรู้ และการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินสีเขียว
นอกจากนั้น บรรษัทการลงทุนเอกชนต่างประเทศ (โอปิค) ยังแสดงความสนใจให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่อีกด้วย
ทั้งนี้ กองทุนที่เกิดขึ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ “ช่องทางใหม่เพื่อโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวอย่างทั่วถึง” ภายใต้สังกัดเอไอเอฟ ซึ่งเป็นการริเริ่มด้านการเงินระดับภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลอาเซียนและเอดีบีเมื่อปี 2554 และบริหารงานโดยเอดีบี
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา เอไอเอฟได้จัดสรรเงินทุนตามพันธสัญญาแล้วทั้งสิ้น 520 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง ด้านน้ำ และด้านโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองทั่วทั้งภูมิภาค
พร้อมกันนี้ เอไอเอฟยังได้เปิดตัว “กองทุนการเงินแบบทั่วถึง” (Inclusive Finance Facility) เพื่อจัดสรรเงินทุนที่มีลักษณะผ่อนปรนให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกัมพูชา ลาว และเมียนมา
นายอภิศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย ระบุว่า ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะได้นำเสนอวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือทางการเงินแบบครอบคลุมและยั่งยืนในภูมิภาค ซึ่งการเปิดตัวสองกองทุนดังกล่าวภายใต้เอไอเอฟ เป็นสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสมกับเวลามากที่สุด
ส่วนนายนาคาโอะ ประธานเอดีบี กล่าวว่า เอดีบีจะสนับสนุนรัฐบาลอาเซียนในการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และเป็นมิตรกับต่อสภาพภูมิอากาศ ผ่านกองทุนการเงินสีเขียวของอาเซียน ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงคุณภาพอากาศและน้ำ และการลดการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งภูมิภาค
