พม. จับมือ นิด้าโพล สำรวจ “ความสุข และความรุนแรงในผู้สูงอายุ” พบ 39.21 % ต้องการให้คนในครอบครัวคอยดูแล ค่าใช้จ่าย-พาไปหาหมอ ขณะเดียวกันประชาชนเห็นว่า 51.98 % ผู้กระทำความรุนแรงต่อผู้สูงอายุ คือ บุคคลในครอบครัวเช่นเดียวกัน
กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือ ” พม. POLL” ในประเด็น “สร้างสุขผู้สูงวัย ใส่ใจไร้ความรุนแรง” โดยทำงานร่วมกับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัด พม. กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็น “สร้างสุขผู้สูงวัย ใส่ใจ ไร้ความรุนแรง” ระหว่างวันที่ 12 – 22 กุมภาพันธ์ 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายอยู่ในพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) รวมตัวอย่างทั้งสิ้น จำนวน 4,800 หน่วยตัวอย่าง และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีลงพื้นที่ภาคสนาม
โดย มีประเด็นคำถาม และคำตอบ ดังนี้
1.ประเด็น “ความสุขของผู้สูงอายุ” ที่ต้องการจากคนในครอบครัว
- 39.21 % ต้องการให้คนในครอบครัวแสดงออกด้วยการดูแล เช่น การดูแลค่าใช้จ่าย การให้เงิน พาไปพบแพทย์
- 38.21% ต้องการให้คนในครอบครัวแสดงออกทางคำพูด เช่น การบอกรัก การทักทาย การถามสารทุกข์สุกดิบ
“ความสุขของผู้สูงอายุเป็นเรื่องใด”
- 56.85% คิดว่าเป็นความสุขทางจิตใจ อารมณ์ เช่น การได้รับการดูแลเอาใจใส่จากลูกหลาน การทำงานอดิเรก
- 25.48% คิดว่าเป็นความสุขทางร่างกาย เช่น การมีสุขภาพดี ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
2. ประเด็น “ความรุนแรงในผู้สูงอายุ”
- 35.04 % เป็นการทำร้ายจิตใจ เช่น วาจา ด่าทอ ท่าทาง สายตา สีหน้า
- 30.98 % ถูกทอดทิ้ง ขาดผู้ดูแล
2.1 ” บุคคลใดเป็นผู้กระทำความรุนแรงในผู้สูงอายุมากที่สุด “ พบว่า
- 51.98 % เป็นบุคคลในครอบครัว หมายถึง พ่อ แม่ พี่น้อง สามี ภรรยา ลูก หลาน
- 26.13 % เป็นบุคคลอื่น หมายถึง คนแปลกหน้า มิจฉาชีพ
2.2 “ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุถูกกระทำความรุนแรงมากที่สุด”
อันดับ 1 สัดส่วน 24.79 % ระบุว่า ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง
อันดับ 2 สัดส่วน 23.06 % ระบุว่า ผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เนื่องจากความเจ็บป่วย และความพิการ
อันดับ 3 สัดส่วน 13.56 % ระบุว่า ผู้ดูแลรู้สึกว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ
2.3 “สิ่งที่ประชาชนจะทำ หากพบเห็นเหตุการณ์ความรุนแรงในผู้สูงอายุ ”
70.33 % แจ้งเหตุผ่านบุคคล/ช่องทางต่างๆ ดังนี้
- 40.28 % แจ้งผ่านผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น
- 27.19 % แจ้งเหตุผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ
2.4 “แนวทางป้องกัน และแก้ปัญหาความรุนแรงในผู้สูงอายุ “
- 40.96 % ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริม การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และอบรมสั่งสอน
- 38.88 % ส่งเสริมการสร้างทัศนคติให้เห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ เช่น ความกตัญญู เอื้ออาทร การช่วยเหลือเกื้อกูล
3. ประเด็น “การใช้เทคโนโลยี เช่น โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ มีผลต่อผู้สูงอายุอย่างไร ”
98.17 % ระบุว่า มีผลดี โดยมีเหตุผล ดังนี้
- 69.93 % ช่วยให้ผู้สูงอายุติดต่อกับลูกหลานได้ง่ายและสะดวกขึ้น
- 11.50 % ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถติดตามข่าวสารทั่วไป ได้สะดวกรวดเร็ว
97.06 % ระบุว่า มีผลเสีย โดยมีเหตุผล ดังนี้
- 55.61% ผู้สูงอายุอาจจะถูกหลอกลวงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
- 16.23 % ทำให้ผู้สูงอายุเสียสุขภาพ เสียสายตา
ทั้งนี้ จะมีการนำผลการสำรวจดังกล่าว เสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เพื่อนำไปกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุต่อไป