กระทรวงพาณิชย์ ร่วมเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เปิดงาน “THAILAND’S AMAZING DURIAN AND FRUIT FEST 2018” ต้นตำรับเทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยครั้งที่ 3 วันที่ 18-23 พฤษภาคม 2561 ที่ลานกิจกรรมด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ เปิดเผยว่า งาน เปิดงาน “THAILAND’S AMAZING DURIAN AND FRUIT FEST 2018” ปีนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้จำนวนมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งทางบริษัทคาดหวังว่าจะเป็นลูกค้าเป้าหมาย 30% แต่ก่อนเปิดงานจนกระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ปรากฏว่าลูกค้าชาวจีนจองซื้อบุฟเฟ่ต์เข้าร่วมงานกว่า 70% สูงเกินกว่าเป้าหมายจำนวนมาก สะท้อนความตื่นตัวและความสำเร็จของการจัดงาน ซึ่งจัดมาตั้งแต่ปี 2559 ต่อเนื่องมาถึงปีที่ 3 ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้กลายเป็นกระแสการจัดบุฟเฟ่ต์ทุเรียน ส่งผลให้ตลาดทุเรียนเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยในปี 2560 เฉพาะทุเรียนมีการขยายตัวเกือบ 200% ในปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เทศกาลนี้มีการจำหน่ายตั๋วบุฟเฟ่ต์ 3 ช่องทาง คือ ขายออนไลน์ ขายผ่านวีแชด และซื้อหน้างานที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งวันแรกที่เปิดงานมีลูกค้าจองซื้อไปแล้วเกิน 50%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เซ็นทรัลเตรียมนำทุเรียนมาจำหน่ายภายในงานจำนวน 150 ตัน ตลอดงาน 6 วัน ระหว่างวันที่ 18-23 พฤษภาคม 2561 และเตรียมจัดงานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่พัทยา ระหว่างวันที่ 8 – 15 มิถุนายน 2561 ที่ลาน Sunken หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ซึ่งเป็นการขยายตลาดพัทยาเป็นครั้งแรกคาดว่าจะมีการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
ส่วนภาพรวมการจำหน่ายทุเรียนในปีนี้ ผู้บริหารเซ็นทรัลฟู้ด รีเทล กล่าวว่า เซ็นทรัลคาดว่าจะขายทุเรียนได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน เติบโตเพิ่มจึ้นจากปีที่แล้วซึ่งขายได้ 700 ตัน เพราะความต้องการผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ยุทธศาสตร์การนำประเทศไทยเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างโอกาสและช่องทางสำหรับการกระจายสินค้า ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าผลไม้ที่จำหน่ายได้หลากหลาย ก่อนจะขยายตลาดผลไม้ไปสู่ต่างประเทศ ดึงเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร สร้างมาตรฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตผลไม้เมืองร้อนสดและแปรรูปให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล