คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย พร้อมเผยโฉมสินค้า Ready-to-wear ประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ “Thai Natural Dye Collection” สะท้อนความงดงามอันทรงคุณค่าของการย้อมสีธรรมชาติ และการทอผ้าแบบพื้นถิ่นภาคเหนือ ที่เกิดจาก 3 ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยแท้ ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน การทอจกตามแบบเฉพาะ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ตำบลตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เกิดเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ สไตล์แฟชั่นที่ผสมความเป็นไทยแท้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ INDIGO สองคอลเลคชั่นที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ และทีมดีไซเนอร์แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทย ได้ร่วมพัฒนาคอลเลกชั่นใหม่ Thai Natural Dye กับ 3 ชุมชนทางภาคเหนือของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชน ให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง และภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายยุคสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดทั้งไทย ต่างประเทศ และเทรนด์แฟชั่นทันสมัย ใส่ได้ทุกโอกาส
สำหรับความพิเศษของคอลเลกชั่นนี้ คือ การนำเส้นใยย้อมสีธรรมชาติมาทอจกแบบกลับหัวเป็นครั้งแรก จนได้เป็นลายหน้าจิ้งจอก ซึ่งเป็นโลโกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เรียกได้ว่า เป็นการนำเสนอความงดงาม และเสน่ห์ของผ้าไทยในรูปแบบสากลได้อย่างลงตัว
“ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ เน้นการให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าพื้นถิ่นให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก สะท้อนขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตอันดีงามดั้งเดิม ความเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นภาคเหนือ และศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล”
จุดเริ่มต้นของคอลเลกชั่นใหม่นี้ ทางทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และดีไซเนอร์ แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทย ได้ร่วมกับชุมชนตำบลตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เพื่อสานต่อเสน่ห์ของการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ภูมิปัญญาที่ชาวบ้านตะเคียนปมสั่งสม และสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีดีเอ็นเอของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นโจทย์สำคัญ
จึงเป็นที่มาของสีหลักใหม่ 4 สี ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผ่านกระบวนการ “ย้อมร้อน” ที่ใช้ความร้อนในการดึงสีออกมาจากต้นพืช หรือ “ย้อมเย็น” การจุ่มน้ำพร้อมพืชเพื่อดูดซับสีที่ออกมาตามธรรมชาติ ได้แก่ สีฟ้า-น้ำเงิน จากต้นฮ่อม สีน้ำตาล-เทา จากยางในผลมะเกลือ สีส้ม จากเมล็ดคำแสด และสีเหลือง จากใบเพกา โดยเส้นใยที่ย้อมได้มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นสีธรรมชาติ สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี
จากนั้น จะนำเส้นใยย้อมสีจากลำพูนมาทอแบบวิถีของจกแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึงมีจุดกำเนิดมาจากฝีมือเชื้อสายพญาเขื่อนแก้ว เมืองเชียงแสนเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ความโดดเด่นอยู่ที่ลวดลายบนผืนผ้าที่เพิ่มเส้นด้ายเป็นช่วงๆ บนหน้ากว้างของผืนผ้าโดยใช้ไม้ขนเม่น หรือนิ้วมือยกเส้นด้ายแล้วพุ่งเส้นด้ายสีพิเศษเพื่อสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และงดงามแตกต่างกันไป
ปัจจุบัน ผ้าซิ่นตีนจกเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรม และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทั้งหมด 16 ลาย
สำหรับคอลเลคชั่นนี้ ใช้ลายดอกจัน และลายโคมหัวหมอน ซึ่งเป็นลายที่ใช้ทอเฉพาะหัวหมอนที่แม่แจ่ม รวมถึงลายทอตัวหนังสือโลโก้แบรนด์ LCFC ที่เป็นเกิดจากการทอจกกลับหัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของชุมชนที่ใช้กรรมวิธีการทอแบบใหม่ เพื่อให้ได้ลายใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคิง เพาเวอร์
ความมหัศจรรย์ของคอลเลกชั่น Thai Natural Dye อยู่ที่โลโก “หน้าจิ้งจอก” ที่เกิดขึ้นจากการทอจกแบบกลับหัวซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทำให้สามารถมองเห็นลายจากผ้าทั้งสองด้านอย่างสวยงาม เพิ่มลาย คือ ลายทอจกดอกจัน ลายโคมและลายทอหน้าหมอน ซึ่งเป็นลายที่แตกต่างจากลายบนผ้าซิ่นทั่วไป เกิดเป็นลูกเล่น และดีไซน์แปลกใหม่ โดยเน้นการตัดเย็บที่ทันสมัย และใช้ได้ทุกวัน
คอลเลกชั่น Thai Natural Dye มีสินค้าให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งเสื้อผ้ายืดมัดย้อมคอกลมแขนสั้น 3 แบบ กระเป๋า Tote มัดย้อม พิมพ์ลายหน้าจิ้งจอก หมวกผ้าทอตีนจก 2 แบบ และหมวกมัดย้อมสี มีวางจำหน่ายแล้ว ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ พัทยา ศรีวารี ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร ภายในสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา