“ธนาธร” ย้ำภารกิจจัดตั้งรัฐบาลต้องให้เกียรติ “เพื่อไทย” ลั่น “สุดารัตน์” เหมาะสมที่สุด ด้าน “ปิยบุตร” เผยเตรียมหารือว่าที่ ส.ส. พรรคสัปดาห์นี้ เตือนใครคิดเป็น “งูเห่า” มีโทษการเมือง 10 ปี
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ตอบคำถามสื่อมวลชนระหว่างแถลงข่าวจับมือร่วมกันของ 6 พรรคการเมือง ที่ได้ลงสัตยาบันคัดค้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อประเด็นฉันทามติเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ภารกิจเบื้องต้นตอนนี้ สร้างแนวร่วมการต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่เสียง 250 บวกให้ได้ก่อน
จากนี้ต้องคุยกันในรายละเอียด จะมีผลักดันนโยบายอะไร อะไรเร่งด่วน ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นขั้นตอนต่อไป ต้องให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ไปคุยกับพรรคอื่นรวมเสียงพรรคอื่นอีกเชื่อว่า รายละเอียดเยอะคงไม่คุยกันง่าย
ทั้งนี้ มองภาพให้ตรงกันก่อนว่า 7 พรรค มีเสียง 275 เป็นอย่างต่ำ ต้องยืนยันตัวเลขนี้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงยืนยันให้ กกต. ต้องเปิดเผยตัวเลขออกมา จากนี้ต้องช่วยกันจับตาใบเหลือง ใบแดง ใบส้มกันอีก ในระบอบประชาธิปไตย 255 เสียงถือว่าสมบูรณ์แล้ว ขั้นต่อไปต้องดู 250 ส.ว. จะถูกนำมาใช้หรือไม่ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่หนุนการสืบทอด มีเพียง 121 เสียง
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องคุยกันต่อ คือ พรรคที่ยังอยู่ตรงกลาง ที่ต้องการร่วมรัฐบาลให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อไทยก็ต้องการ ส่วนพรรคที่จะเป็นฝ่ายค้านก็จะสามารถร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยได้โดยยกมือหนุนนายกฯที่มาจาก ส.ส.ได้ เพื่อจะให้ ส.ว.ทำงานไม่ได้ แต่ตอนนี้ต้องยืนยันตัวเลขกับ กกต. ไม่ใช้เวลาเนิ่นนานจนประชาชนกังขา ยิ่งเปิดเร็วจะยิ่งสง่างาม จากนั้นพรรคอื่นที่ยังไม่ตัดสิน จะได้ตัดสินใจได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวเสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวยืนยันว่าขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เหมาะสมที่สุด และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่สง่างามมากที่สุด ดังนั้นพรรคยืนยันตามนี้ ถ้าจะเสนอชื่อคนอื่นมาต้องมาคุยกัน นี่คือจุดยืนของพรรค
นายธนาธร ยังกล่าวถึงประเด็นที่มีการปล่อยข่าวพรรคอนาคตใหม่จะมีงูเห่านั้น ยืนยันว่าพรรคเป็นที่รวมกันของคนมีอุดมการณ์ ไม่เริ่มตั้งพรรคด้วยการดูด ส.ส. เหมือนบางพรรค ความเหนียวแน่นจะมีสูง โดยพรรคอนาคตใหม่จะจัดพูดคุยกันเบื้องต้นกับว่าที่ส.ส.ของพรรค จำนวน 80 คนบวก และจะนัดประชุมใหญ่ว่าที่ ส.ส.ในวันที่ 30-31 มีนาคมนี้
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สุดสัปดาห์นี้จะเรียกประชุมว่าที่ ส.ส. ทำความตกลงร่วมกัน เรื่องงูเห่า เพราะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 46 ระบุว่า ใครเรียกรับผลประโยชน์ให้ตนดำรงตำแหน่ง มีความผิด โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น ถ้าคิดจะเป็นงูเห่าอ่านกฎหมายข้อนี้ให้ดี
ส่วนกระแสการล่าชื่อถอดถอน กกต. และอาจมีเงื่อนไขให้การเลือกตั้งโมฆะนั้น ซึ่งเลือกตั้งครั้งนี้คนไทยรอมาหลายปี ประชาชน คือ เสียงสวรรค์ วันนี้ (27มี.ค.) โอกาสดีที่ กกต. จะพิสูจน์ตนเองว่า เป็นองค์กรอิสระจัดการเลือกตั้งอย่าบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง
“คสช.อยู่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ เดี๋ยวก็ต้องไป แต่ กกต.จะอยู่กับเราตลอด ขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ บ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยได้ ขึ้นกับ กกต. ประชาชนทำหน้าที่เต็มที่ พรรคการเมืองทำเต็มที่แล้ว เหลือแค่ กกต. ตอนนี้ ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าโปร่งใสจริงขอแค่เปิดคะแนน การนับคะแนน การประกาศผล และการรับรองผล เป็นคนละขั้นตอนกัน แต่ทั้งนี้มีระเบียบ กกต. อยู่ฉบับหนึ่งเขียนว่า ให้ประกาศผลไม่เกิน 95% ซึ่งไม่มีเจตนารมณ์เบื้องหลังมารองรับเลย”นายปิยบุตร กล่าว
อย่างไรก็ตาม สุดท้าย กกต. จะรับรองผลเมื่อไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันว่า กกต.นับเสร็จแล้ว แต่ไม่ยอมบอกคะแนนดิบ ซึ่งคะแนนไปหยุดที่ 94% ของภาพรวม ถ้าโปร่งใสก็เปิดคะแนนออกมา
การนับคะแนน การประกาศผลไม่ทางการ การรับรองผล นำมามาปะปนกันไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องรับรองผลวันสุดท้ายวันที่ 9 พฤษภาคม เพราะเป็นสิ่งที่คาใจ ทำไมต้องเก็บไว้ ประกาศชื่อผู้ชนะทั้ง 350 เขต แต่ไม่บอกคะแนน แถมบอกรอใบเหลือง ใบส้ม ทุกฝ่ายทำหน้าที่เต็มที่แล้ว เหลือ กกต. เท่านั้นที่ต้องทำให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม
