“พลังประชารัฐ” แถลงอัด “เพื่อไทย” ฉกฉวยบนสถานการณ์ฉุกเฉิน!! มั่นใจจัดตั้งรัฐบาลได้จากพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงความชัดเจนเรื่องการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลว่า เชื่อว่ายังมีเวลาในการหารือที่จะดำเนินการให้รัดกุม เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่มาลงคะแนน และคาดหวังว่าการตั้งรัฐบาลจะราบรื่น เราดำเนินการอยู่ โดยเราคุยกับพรรคจำนวนหนึ่ง ขนาดต่างๆกันไปทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ โดยการรวบรวมเสียงนั้นยังอยู่ในกระบวนการ เพราะประเด็นหลักวันนี้ถ้าพูดถึงเสียง ยังไม่มีกลุ่มไหนพูดได้จริงจังว่าได้จำนวนเท่าไร เพราะ กกต.ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ
เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย และพรรคเศรษฐกิจใหม่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราคุยหลายพรรค ขอไม่เปิดเผยชื่อ และขอให้มั่นใจว่าพรรค พปชร.มั่นใจว่าเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จากพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จะรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด เราไม่ตั้งเป้าก่อนว่าจะเป็นรัฐบาลเสียงอย่างไร ส่วนเรื่องการต่อรองต่างๆ ยังไม่ถังขั้นนั้น เพิ่งคุย เสียงยังไม่ลงตัว ยังไม่ถึงขั้นต่อรองตำแหน่ง เก้าอี้
ทั้งนี้ เรามีความตั้งใจในการเป็นรัฐบาล โดยรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด วันนี้ยังมีเวลา กกต.ยังไม่แถลงตัวเลข เราก็ไม่เร่งแถลงสิ่งใดๆ จริงๆแล้วก็ไม่แน่ใจว่าการออกมาแถลงจับมือกันนั้นเป็นประโยชน์ หรือสร้างความสับสนกับประชาชนกันแน่ ถ้าเราแถลงจะแถลงที่เป็นสาระ
“ถ้าตัวเลขทุกอย่างพร้อม มันก็จะชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส. แต่ตัวเลขวันนี้ยังไม่นิ่ง ประกาศไป ตั้งขั้วกันไป เกิดมีใบแดงใบเหลืองขึ้นมาตัวเลขมันเปลี่ยนได้เลย แต่ถ้าตัวเลขนิ่งปุ๊บ เราเดินได้เลย ไม่ต้องมาแถลง และเรามั่นใจว่าเราจะเดินสู่เป้าหมายได้ แต่เร็วเกินไปที่จะบอกเรื่องตัวเลข” นายอุตตม กล่าว
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้ที่บางฝ่ายบอกว่ารวมเสียงได้เท่านั้นเท่านั้น ก็ยังไม่ชัดเจนว่าได้เท่าไร เพราะ กกต.ยังไม่ยืนยัน ดังนั้นการรวมตัวกันอ้างความชอบธรรมว่าได้เสียงข้างมาก เป็นเพียงกลไกทางการเมืองที่จะแสดงความชอบธรรม
“เป็นการฉกฉวยบนสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ตัวเองดูชอบธรรม ส่วนพรรค พปชร.ดำเนินการตามความเป็นจริง และมั่นใจว่าจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้” นายสนธิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้หยุดได้แล้วกับการอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งทำให้ทุกคนเข้าสู่ประชาธิปไตย ถ้าเป็นเผด็จการพรรคเหล่านั้นก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง และระหว่างหาเสียงก็ใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย ตนขอถามถามว่า 7.9 ล้านเสียงที่เลือกพรรค พปชร. แปลว่าคนเหล่านั้นไม่เคารพเสียงประชาชนหรือไม่ จะฟังเฉพาะเสียงที่เลือกฝ่ายตนเองหรือ 7.9 ล้านเสียงไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ เพราะประชาธิปไตยต้องเคารพแม้เสียง 1 เสียง แล้วใช้สิทธิ์อะไรว่าตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วเรียกคนอื่นไม่ใช่ประชาธิปไตย เป็นการดูถูกประชาชน และสร้างความแตกแยก
“พปชร.มองเห็นว่าคนที่เหมาะในปัจจุบัน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรค พปชร.ยืนยันว่าพรรค คือ พรรคประชาธิปไตย ที่คิดถึงประชาชน พยายามให้ประเทศเดินหน้า พยายามไม่สร้างวาทกรรมแบ่งแยก ตอกย้ำความแตกแยกเหมือนที่เป็นมา” นายสนธิรัตน์ กล่าว
