สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลก ทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ จัดโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการดำเนินงาน และแนวทางบริหารจัดการแหล่งมรดกทางธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรม โดยมุ่งหวังกลุ่มประเทศอาเซียน ใช้เป็นแนวทางร่วมกันให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
คุณสิริกิติยา เจนเซน กล่าวในงานโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดำเนินงานด้านมรดกโลก และแนวทางการบริหารจัดการแหล่งมรดกโลก แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และแหล่งมรดกทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน ถึงเรื่องประวัติศาสตร์ การใข้ชีวิต ที่ได้พาตนเองไปในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง กับประวัติศาสตร์ จึงเป็นแรงบันดาลใจ ให้เกิดความสนใจ
“การจะผลักดัน ให้พื้นที่ประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศเข้าสู่การเป็นมรดกโลก เราต้องเข้าใจลึกซึ้ง และนำพาตัวเข้าไปในพื้นที่ประวัติศาสตร์นั้นๆ เพื่อให้ได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ ที่สำคัญเรามีความจำเป็นที่ต้องปลูกฝังให้คนในชุมขน รู้สึกรักและหวงแหน รวมทั้งมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์”
ทางด้าน ชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการยูเนสโก ประเทศไทย กล่าวว่า แต่ละประเทศมีความจำเป็น ที่ต้องเข้าใจในอัตลักษณ์ของตนแอง เพื่อจะสนับสนุนให้พื้นที่ของตน ได้รับการเสนอ เป็นมรดกโลก ที่สำคัญต้องเข้าใจ และะรู้ถึงความสำคัญความโดดเด่นของตนเอง เพื่อนำสิ่งเหล่านั้นมาเสนอขึ้นทะเบียน
ส่วน รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับอนุสัญญา และการนำเสนอแหล่งมรดกโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียน กับองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฯ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือภายใต้อนุสัญญาฯ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
