ทันทีที่การเลือกตั้งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ปิดหีบการเลือกตั้งไปเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นก็เป็นช่วงของการนับคะแนนแต่ละหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ซึ่งทำให้แต่ละพรรคการเมืองย่อมที่จะเห็นคะแนนของตัวเองว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร ที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคะแนนนิยมของพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ เห็นความแตกต่างเกิดขึ้นทันที
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นพรรคการเมืองยอดนิยม และครองใจประชาชนมาอย่างยาวนาน แม้การนับคะแนนยังไม่ครบ 100% แต่ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อเวลาประมาณ 21.40 น. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมแกนนำพรรค รวมทั้งประชาชนที่ไปร่วมให้กำลังใจที่พรรคประชาธิปัตย์
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่าแม้ผลการนับคะแนนยังไม่ยุติ แต่ก็เป็นที่แน่ชัดว่าผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าอันดับที่ หรือจำนวนนั่ง “ผมก็ต้องขอโทษผู้สนับสนน ปชป. ทุกคนที่ไม่สามารถผลักดันแนวคิดของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้” และก็ต้องขออภัยเพื่อนๆ ร่วมอุดมการณ์หลายคน ซึ่งเป็นผู้ที่ตั้งใจมุ่งมั่นจะเป็นนักการเมืองคุณภาพ ทั้งที่เป็นอดีต ส.ส. และคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจมาสืบสานอุดมการณ์ของพรรค จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าองค์กร ดังนั้นผมขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” นี่คือการประกาศลาออกของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อต้องการรักษาสัจจะของตัวเอง
อย่างไรก็ดี การประกาศลาออกของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งนี้มีการพูดคุยในพรรคมาก่อนหน้านี้แล้ว หากพรรคมีที่นั่งจากการเลือกตั้งครั้งนี้ต่ำ 100 ที่นั่ง เขาพร้อมจะลาออก แต่ตัวเลขที่นั่งที่ปรากฎดูเหมือนจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณาตัดสินประกาศลาออก เพราะทันทีที่ปรากฎตัวเลขบนหน้าจอที่กกต.แถลง ยิ่งทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจทันที
การลาออกของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ให้สัญญาไว้กับพรรคและพี่น้องประชาชน
เมื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกไปแล้ว จะมีนัยสำคัญอยู่ต่อการดำรงของพรรค ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล พรรคประชาธปัตย์จะเลือกเคียงข้างพรรคไหนระหว่าง“พรรคเพื่อไทย”กับ“พรรคพลังประชารัฐ” แต่การจะเลือกเคียงข้างพรรคไหนหรือไม่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ใช่ผู้ที่มีบทบาทในการตัดสินใจอีกแล้ว
แต่ที่แน่ๆความเคลื่อนไหวทางการเมืองในเรื่องของการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการชักชวนให้พรรคประชาธปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคพลังประชารัฐ แต่การตัดสินใจยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้ยังต้องติดตามอีกระยะ
เมื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาสัจจะลุกออกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์นับจากนี้ จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องจัดการจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านนับจากนี้ไป เช่นเดียวกับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป
สำหรับว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธปัตย์คนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ณ เวลานี้ ดูเหมือนมีการวางตัวไว้แล้วเช่นกัน สาเหตุที่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วก็เพื่อให้การบริหารงานเกิดความต่อเนื่องในทางการเมือง และการบริหารพรรค คงไม่ยากอะไร “The Bangkok Insight” ได้รับการเปิดเผยจากคนในพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับย้ำชัดว่าชื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไปจะเป็นคนอื่นไม่ได้ นั่นคือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ปรากฎขึ้นในทำเนียบรายชื่อหัวหน้าพรรคของประชาธิปัตย์คนต่อไป
เพราะจะถึงอย่างไรวันนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจอันดับ 1 ของพรรคที่ได้รับการคัดเลือกมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ฉะนั้นชื่อนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในยุคต่อไป