Business

ระดม 4 ค่ายรถยนต์ถกปมมาตรการ EV

“สศอ.”ประชุมร่วม 4 ค่ายรถยนต์ รับฟังข้อเสนอแก้ปัญหามาตรการ EV ระยะแรก ยกระดับให้ไทยฐานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)  เปิดเผยว่าจากช่องโหว่ของมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในระยะแรก ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากการลดอัตราภาษีสรรพสามิต ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ HEV/PHEV โดยไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S-Curve ของประเทศ

ดังนั้นสศอ. จึงได้นำเสนอมาตรการในการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ “Core Technology” ของรถยนต์ไฟฟ้า เป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งต้องการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ในราคาประหยัด ช่วยบรรเทาผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือเรียกว่า “อีโค่ อีวี” (ECO EV)

ณัฐพล รังสิตพล 1

นายณัฐพล กล่าวว่ามาตรการ ECO EV มีวัตถุประสงค์หลัก 1. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถปรับพลิกโฉมฐานการผลิตรถยนต์ ECO Car ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งหลักของประเทศไทยซึ่งถูกกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการภาษีสรรพสามิตของการส่งเสริม EVระยะแรก

2. เพื่อปิดจุดอ่อนของมาตรการส่งเสริม EV ในรอบแรก  จากโครงการที่บริษัทเสนอขอรับการสนับสนุนทั้งหมด สศอ. พบว่ามีปัญหา3 ประเด็นหลักคือ 79.8%  ของรถยนต์ทุกคันเป็นการลงทุนผลิต HEV ที่ไม่สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ จึงไม่เอื้อให้เกิดการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการพัฒนาให้ไปสู่ BEV ในอนาคตได้ และกว่า 91.8% ของรถยนต์ที่ทุกบริษัทเสนอขอรับการสนับสนุนไม่มีการลงทุนใน Core Technology ของ EV ในประเทศไทยเลย โดยเป็นการประกอบขั้นปลายสุดคือ ประกอบตัวถังและทดสอบแบตเตอรรี่

นอกจากนี้ รถยนต์ทุกคันที่ทุกบริษัทเสนอขอรับการสนับสนุน มีราคาสูงกว่าที่ประชาชนผู้ใช้รถยนต์ส่วนใหญ่จะเข้าถึงได้ ราว 1-6 ล้านบาท จะทำให้จะไม่แพร่หลายหรือมีขนาดการผลิตที่เพียงพอสำหรับการลงทุนผลิต Core Technology ของ EVในประเทศไทย ประกอบกับ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้เร่งรัดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาจำหน่าย เพื่อเป็นอีกทางเลือกของประชาชนในการช่วยกันลดฝุ่น pm 2.5 จากการใช้รถยนต์ดีเซล และเบนซิน

ladestationen charging stations pixabay

นายณัฐพล กล่าวว่าช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สศอ.ได้ทำงานร่วมกับบีโอไอ และกระทรวงการคลัง ได้ปรับปรุงและสรุปข้อเสนอของมาตรการการ ECO EV จนล่าสุดสามารถตอบวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ครบทุกข้อ ก่อนที่จะได้สรุปและประกาศมาตรการนี้ ได้รับทราบจากกระทรวงการคลังว่าได้รับหนังสือร่วมลงนามจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่เสนอขอรับการส่งเสริม HEV 3 ราย คือ Toyota Honda และ Nissan และบริษัทผู้จัดจำหน่ายรถปิกอัพ 1 ราย คือ ตรีเพรชอิซูซุ ได้มีข้อท้วงติง และต้องการให้ภาครัฐดำเนินมาตรการในทิศทางอื่น

ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา สศอ.  ได้หารือกับผู้ผลิต HEV ทุกรายอีก ทั้งการหารือ แบบรายบริษัท และ กลุ่ม 3+1 ราย ทั้ง 3 ราย รับที่จะเสนอแนวทางในการปรับโครงการการลงทุนของแต่ละบริษัท เพื่อให้ไม่เป็นเพียงโครงการประกอบ HEV ขั้นสุดท้าย แต่จะเพิ่มให้มีการลงทุนเพื่อพยายามตอบโจทย์ทั้ง 4 ข้อ

รถอีวี

1. ราคาที่คนไทยต้องเข้าถึง EV ได้ 2.มีกระบวนการผลิตของชิ้นส่วน EV core technology 3. มีการก้าวไปสู่รถยนต์ที่สามารถชาร์ทไฟฟ้าได้ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาโครงข่ายการพัฒนาไฟฟ้า และ 4. มีเส้นทางการพัฒนาฐานการผลิต ECO Car ไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต ที่มีการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

นายณัฐพล กล่าวถึงการรับฟังข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหามาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าระยะแรก ว่าหลังจากที่ทั้ง 3 บริษัทได้ทราบโจทย์และขอกลับไปหาแนวทางประมาณ 1 เดือน บริษัทได้มารายงานผล  สรุปได้ว่าบริษัทไม่มีข้อเสนอที่จะตอบโจทย์ทั้ง 4 ข้อ ในการแก้ปัญหามาตรการ EV ระยะแรกได้

โดยเห็นว่าช่วง 6 ปีนี้ ภาครัฐยังไม่ควรมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ควรรอให้มาตรการภาษีสรรพสามิตจบลงในปี 2568 ก่อน จึงควรหามาตรการแก้ไขต่อไป หลังจากนี้สศอ. จะสรุปสถานการณ์ล่าสุด เสนอกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทราบสถานะและพิจารณาตัดสินใจต่อไปว่า ประเทศไทยและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จะเดินออกจากข้อติดขัดของการพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านี้ร่วมกัน หรือไม่อย่างไร

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight