POLITICS-GENERAL

ย้ำประชาชนภาคเหนือ ยึดหลัก 3 ม. ลดเสี่ยง ‘หมอกควัน’

กระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์หมอกควัน และเฝ้าระวังภัยสุขภาพของประชาชนในภาคเหนือใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง แนะประชาชนยึดหลัก 3 ม. “ไม่เผา ไม่เสี่ยง ไม่ป่วย” พร้อมให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานทางราชการ

น.พ. ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโ
นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส

นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทำให้สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อน และแห้งแล้งมากขึ้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าได้ง่าย ประกอบกับมีการเผาขยะต่างๆ และเผาไร่สวน เพื่อเตรียมที่ดินไว้สำหรับทำการเกษตร ดังนั้นปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ จึงยังเป็นปัญหาสำคัญ ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน

ปัญหาหมอกควัน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงป่วยจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่

1.กลุ่มโรคหัวใจ และหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย เท้าบวม หัวใจเต้นเร็ว

2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูก และลำคอ

3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย

4.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบ หรือคันตา ตาแดง น้ำตาไหล และมองภาพไม่ค่อยชัด

ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น หากได้รับมลพิษจากหมอกควันเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วย หรือ มีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป

forest fire 2268725 640

กรมควบคุมโรค ได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินมาตรการ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควัน ที่มีประสิทธิภาพ และขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงยึดหลัก 3 ม. ได้แก่

1.ไม่เผา ขอความร่วมมือจากชุมชนให้หยุดการเผาไร่สวน และขยะต่างๆ

2.ไม่เสี่ยง ขอความร่วมมือประชาชนไม่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นเวลานานในช่วงที่มีค่าปริมาณผลการตรวจวัดฝุ่นเกินค่ามาตรฐานหรือ มีระดับที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และมีการสื่อสารความเสี่ยง แจ้งเตือน และให้ความรู้เรื่องมลพิษหมอกควัน แก่ประชาชนทุกระดับในชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสหมอกควัน

3.ไม่ป่วย มีการป้องกันตนเอง ในสถานการณ์หมอกควันรุนแรง

นอกจากนี้ ขอแนะนำประชาชน ควรติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐเป็นประจำ ส่วนวิธีการป้องกันตัวเองเบื้องต้นให้ปลอดภัยจากหมอกควัน ประกอบด้วย

  • ปิดประตูหน้าต่างบ้าน ให้มิดชิด
  • หมั่นทำความสะอาดบ้านโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก
  • สวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ โดยปิดบริเวณปาก และจมูก
  • กรณีขับขี่ยานพาหนะในช่วงที่มีหมอกควันมาก ทัศนะวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

Avatar photo