Economics

‘สมคิด’ มั่นใจศักยภาพ ‘กทท.’ พร้อมเร่งเดินหน้าโครงการสำคัญ

“สมคิด” ตรวจเยี่ยม “การท่าเรือฯ” พร้อมเร่งเดินหน้า 4 โครงการสำคัญ โดยเฉพาะ “ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3” มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและติดตามงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ว่า ปัจจุบัน กทท. มีที่ดิน 2353ไร่ ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 8 แสนล้านบาท ที่มีศักยภาพที่จะนำพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์เพิ่มรายได้ให้องค์กรมหาศาล รวมทั้งยังไม่มีหนี้สิน และยังมีกำไร จึงต้องเร่งพัฒนาโครงการบนที่ดินดังกล่าว เบื้องต้นได้สั่งการให้ กทท. เร่งรัดโครงการที่สำคัญๆ 4 โครงการคือ โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท เพราะเป็นโครงการที่สำคัญ โดย กทท.จะเปิดให้เอกชนสนใจเข้ามายื่นซองประมูลวันที่ 29 มีนาคมนี้ คาดว่าในเดือนเมษายนจะได้ตัวผู้ชนะประมูล และเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติได้แน่นอน เบื้องต้นได้รับทราบจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ว่าจะร่วมกับเอกชนต่างชาติเข้าร่วมประมูลแน่นอน เชื่อว่าจะมีผู้ยื่นซองมากกว่า 2 รายแน่นอน ซึ่งในความเห็นส่วนตัวต้องการให้เอกชนต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์เข้ามาเป็นพันธมิตรกับเอกชนไทยเข้าร่วมประมูล ไม่ต้องการเอกชนสัญชาติไทย100% เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

S 78176321

โครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ หรือ คลองเตยซึ่งเป็นทำเลทองใจกลางเมืองซึ่งมีมูลค่าที่ดินมหาศาล และยังเป็นท่าเรือน้ำลึกกลางกรุงที่จอดเรือขนาดใหญ่ได้ ขอให้ เร่งพัฒนาให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าที่ทันสมัย และต้องพัฒนาให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวด้วย โดยต้องจัดสร้างที่จอดเรือสำราญหรือเรือครุยส์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับเรือท่องเที่ยวจากต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวและแวะพักในไทย ซึ่งต้องมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าเรือให้เป็นคอมเพล็ก แหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า และร้านอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวด้วย คล้ายๆ กับโมเดลของท่าเรือปูซาน เกาหลีใต้และสิงคโปร์

“ท่าเรือกรุงเทพเป็นโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มผลตอบแทนที่ดี เพราะตั้งอยู่บนทำเลที่ดีใกล้สุขุมวิท ดังนั้นหาก กทท.จะลงทุนพัฒนา มองว่าไม่ควร ของบประมาณจากรัฐ และอาจจะไม่ต้องใช้วิธีเปิดประมูลหาเอกชนมาร่วมทุนแบบพีพีพี แต่อาจใช้รูปแบบฟิวเจอร์ฟันด์จัดตั้งกองทุนและขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนได้เข้ามาเป็นเจ้าของร่วม”

ท่าเรือ3

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เป็นสมาร์ทซิตี้ เพื่อให้ชุมชนท่าเรือคลองเตย 1.3 หมื่นครัวเรือนได้ขึ้นไปอยู่บนในคอนโด โดยให้ กทท.ตั้งทีมพิเศษขึ้นมาผลักดันเรื่องนี้โดยเฉพาะเร่งด่วน เพื่อให้เริ่มการก่อสร้างได้เร้วขึ้น 1 ปี ในปี 2563 จากเป้าเดิมที่จะเริ่มในปี 2564 โดยต้องรับผิดชอบดูแลไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น ต้องให้ ชาวบ้านมีส่วนร่วมกับโครงการและต้องมีการจัดสวัสดิการดูแลชุมชนด้วย เนื่องจากปัจจุบันกทท.มีฐานะทางการเงินที่ดีมีกำไร และยังมีโครงการลงทุนในอนาคตที่สามารถทำรายได้ดีเกือบทุกโครงการ

โครงการท่าเรือระนองให้เร่งพัฒนา โดยในเฟสที่ 1 วงเงินลงทุน 5,471 ล้านบาท โดยจะต้องให้สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ชุมพรด้วย เพื่อให้สินค้าจากไทยส่งออกไปยังประเทศเอเชียใต้ อินเดีย บังคลาเทศ และศรีลังกา รวมทั้งให้ศึกษาการทำโครงการท่าเรือระนองเฟส 2 ต่อเนื่อง เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่เพิ่มเติมบนเกาะบริเวณทางด้านใต้ทางใต้ของระนอง ซึ่งเชื่อว่าจะขึ้นมาทดแทนท่าเรือทวายได้ซึ่งขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการ

Avatar photo