วันนี้ ( 13 มี.ค. ) มีการจัดดีเบตนโยบายพลังงานของ 5 นโยบายพรรคใหญ่ ในหัวข้อ “ส่องนโยบายพลังงาน” โดยกลุ่มปฏิรูปพลังงาน เพื่อความยั่งยืน (EPS) ที่สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตัวแทนพรรคที่เข้าร่วมในเวทีนี้ ประกอบด้วย ดร.สันติ กีระนันทน์ ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ น.พ.ระวี มาศฉมาดล ตัวแทนพรรคพลังธรรมใหม่ บรรยากาศการดีเบตเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ละพรรคผลัดกันนำเสนอนโยบายของตนเอง
ทั้ง 4 พรรคการเมืองใหญ่ มุ่งเน้นนโยบายพลังงาน ในแต่ละด้าน ดังนี้
พรรคพลังประชารัฐ
- ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน โดยปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ใหม่ ภายใน 10 ปีต้องมีพลังงานหมุนเวียนเข้าระบบ 50%
- กระจายเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ทั้งก๊าซธรรมชาติ น้ำ และถ่านหิน แต่ต้องศึกษาเชิงลึกนำเทคโนโลยีสะอาดมาใช้
- นิวเคลียร์ไม่สนับสนุน
- ปรับกระบวนการนำข้าราชการไปนั่งในคณะกรรมการบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) โดยให้ใช้ระบบการคัดเลือก ไม่ต้องมีตำแหน่งสูงสุด และลดจำนวนที่นั่งข้าราชการลง ดึงภาคประชาชนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการด้วย
พรรคประชาธิปัตย์
- เร่งส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้ได้สัดส่วนตามแผนพีดีพี
- โครงการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาบ้านต้องไปถึงทุกครัวเรือน
- ส่งเสริมไบโอดีเซลบี 7 และบี 10 พร้อมการันตีราคาปาล์ม เช่นที่เคยการันตีในยุคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อกก.
- ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)
- ราคาพลังงานในประเทศ ต้องสะท้อนราคาตลาดโลก จากปัจจุบันราคาตลาดโลกลดลง แต่ราคาในประเทศยังสูง
- กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องมีบทบาทชัดเจนในการเป็นกันชน ดูแลราคาพลังงานให้ประชาชน
- ราคาดีเซลต้องไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
- ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ต้องตรึงต่อเนื่อง
- เคลียร์เรื่องก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันปรับราคาสูงขึ้น จากเดิมมีนโยบายราคาต่ำ เพื่อส่งเสริมให้คนมาติดตั้ง ไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่เสียเงินติดต้้งไปแล้ว
- ปตท.ต้องเป็นกลไกในการดูแลราคาพลังงานของประเทศ ไม่ว่าจะได้กำไรหรือไม่
พรรคภูมิใจไทย
- ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนนำเข้าระบบปีละ 25% ครบ 4 ปีเป็นพลังงานหมุนเวียน 100%
- ส่งเสริมพืชเกษตร เพื่อนำมาผลิตเป็นพลังงาน ลดปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร เช่นเดียวกับส่งเสริมเกษตรกรปลูกต้นกัญชา ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรค
พรรคอนาคตใหม่
- รวมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานใหม่ บูรณาการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน เพราะตอนนี้มีหน่วยงานจำนวนมาก และทำงานซ้อนกัน และแต่ละหน่วยงานต่างมีวิสัยทัศน์เฉพาะตัว
- ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่ออุดหนุนราคาอย่างมีสติ
- ดึงการผลิตเอทานอลเข้ามาอยู่ในโครงสร้างราคาอ้อย และน้ำตาลทราย
- ลดการผูกขาดในกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติของปตท.
พรรคพลังธรรมใหม่
- ลดราคาน้ำมัน 5 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยเหลือประชาชน
- ตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ (National Oil Company : NOC ) ขึ้นมาใหม่ ดูแลกิจการก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน สร้างความโปร่งใส และเป็นอิสระจากนโยบาย เพื่อประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
- ยกเลิกสัมปทานที่ไม่เป็นธรรม
- ทุกนโยบายประชาชนต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น
- ให้ทุกพรรคมาร่วมกำหนดนโยบายพลังงาน
- บูรณาการนโยบายเกษตรและพลังงานหมุนเวียน
นายมนูญ ศิริวรรณ กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน ระบุว่า จะเห็นว่าทุกพรรคมีนโยบายพลังงานสีเขียว หรือพลังงานหมุนเวียนเหมือนกันหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่บางเรื่องประกาศแต่นโยบาย ไม่ได้บอกวิธีปฏิบัติ เช่น เรื่องการอุดหนุนราคาพลังงาน จะใช้กลไกจากไหนมาทำและใช้เงินเท่าไหร่ และบางเรื่องขัดแย้งกัน เช่น การันตีพืชพลังงานราคาสูง แต่กดราคาไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์ หรือบางนโยบายทำแล้ว จะทำให้ประเทศขาดความน่าเชื่อถือ เช่น การยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียม อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่ว่าพรรคไหนจะมาดูแลพลังงาน ก่อนกำหนดนโยบายใดคงจะมีการหาข้อมูลและศึกษาอย่างรอบคอบก่อน