“ผบ.ตร.” กำชับกฏเหล็ก 11 ข้อห้ามข้าราชการตำรวจทุกนายทั่วประเทศต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีวิทยุสั่งการไปยังทุกหน่วยในสังกัด เพื่อกำชับและกำหนดมาตรการให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทั่วประเทศวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ประกอบด้วย
1. ไม่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองใดๆ
2. ไม่ใช้สถานที่ราชการในกิจกรรมทางการเมือง
3. ไม่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลให้ปรากฏแก่ประชาชน
4. ไม่แต่งกายเครื่องแบบราชการไปประชุมร่วมพรรคการเมือง หรือไปร่วมประชุมในที่สาธารณะใดๆ อันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง
5. ไม่ประดับเครื่องหมายพรรคการเมืองในเวลาสวมเครื่องแบบราชการ หรือในเวลาราชการ หรือในสถานที่ราชการ
6. ไม่แต่งเครื่องแบบของพรรคการเมืองเข้าไปในสถานที่ราชการ
7. ไม่บังคับให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือประชาชนเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใด และไม่กระทำการในลักษณะให้คุณให้โทษ เพราะเหตุที่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือประชาชนนิยมหรือเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดที่ตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
8. ไม่ทำการขอร้องให้บุคคลใดอุทิศเงินหรือทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่พรรคการเมือง
9. ไม่โฆษณาหาเสียงเพื่อประโยชน์แก่พรรคการเมือง หรือแสดงการสนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ ที่เป็นการเปิดเผยในที่ประชุมพรรคการเมือง และในที่ปรากฏแก่ประชาชนหรือเขียนจดหมาย หรือบทความไปลงหนังสือพิมพ์ หรือพิมพ์หนังสือ หรือใบปลิวซึ่งจำหน่ายจ่ายแจกไปยังประชาชน อันเป็นข้อความที่มีลักษณะทางการเมือง
10. ไม่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อแทรกแซงในทางการเมือง หรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อกระทำกิจการต่างๆ
11. ในช่วงที่มีการเลือกวุฒิสมาชิก และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยาย ที่จะเป็นการช่วยเหลือส่งเสริม สนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในการกลับกันไม่กีดกัน ตำหนิติเตียน ทับถมหรือให้ร้ายผู้สมัครเลือกตั้ง
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดช่วงการเลือกตั้ง และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน รวมไปถึงข้าราชการตำรวจทุกท่าน ให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโพสต์แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ หรือการแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ อาทิ เรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา หรือเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมาย หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือมีเบาะแส ข้อมูล กลุ่มบุคคล หรือสิ่งของต้องสงสัย อีกทั้งต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถแจ้งมายังสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง หรือสายด่วน 1559 สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง