ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดซื้อขายในวันนี้ (12 มี.ค.) ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของราคาหุ้นโบอิงที่ยังร่วงลงอย่างหนักฉุดให้ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง แม้ในช่วงแรกของการซื้อขาย จะได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดปรับลงมา 75.43 จุด หรือ 0.29% มาอยู่ที่ 25,575.45 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 11.94 จุด หรือ 0.43% มาอยู่ที่ 2,795.24 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับขึ้น 50.44 จุด หรือ 0.67% ที่ 7,608.50 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เมื่อเดือนที่แล้ว ขยับขึ้น 0.2% สอดคล้องกับที่ประเมินไว้ และในเวลา 12 เดือนนับถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซีพีไอปรับขึ้นมา 1.5% ซึ่งถือเป็นการขยับขึ้นน้อยสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2559
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตัวเลขซีพีไอที่ออกมาจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความอดทนต่อการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดในที่สุด
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของโบอิง ยังร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ล่าสุดปรับลงมา 6.7% หลังความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 8 ขยายวงกว้างมากขึ้น มีประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้น รวมถึง หลายประเทศในยุโรป ที่ออกคำสั่งระงับการใช้งานเครื่องบินรุ่นนี้ ที่ประสบอุบัติเหตุตกถึง 2 ลำซ้อน ในเวลาห่างกันไม่กี่เดือน ทั้งที่เป็นเครื่องบินที่เพิ่งส่งมอบใหม่
ราคาหุ้นที่ปรับร่วงลงมานั้น ทำให้ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน มูลค่าตามราคาตลาดของโบอิงลดลงไปหลายพันล้านดอลลาร์
