Branding

60 ปี ‘สยามพิวรรธน์’ ลุย 2 โปรเจคยักษ์กรุงเทพฯ ทุ่ม 70,000 ล้านลงทุน 5 ปี

ความสำเร็จของ “OneSiam” จาก 3 ห้างดังแห่งสยาม ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรรี่  แหล่งชอปปิงลือชื่อเก่าแก่แต่ล้ำยุคเสมอ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติขาช็อปจะต้องไม่พลาด จนมาถึง “ไอคอนสยาม” ที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก วันนี้มีกลุ่มลูกค้าแวะเวียนเข้าออกมากถึงวันละ 1.5 แสนคน

Siam Discovery Siam Center Siam Paragon ICONSIAM

“60 ปี” แห่งความสำเร็จ ทำให้ก้าวต่อไปของสยามพิวรรธน์ เต็มไปด้วยความมาดมั่น และมุ่งหวัง ที่จะเดินฝ่าไปสู่โลกดิจิทัลด้วยไอเดียใหม่ๆ ขึ้นแท่นเป็น “ผู้นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์” ตามที่วางเป้าไว้

5 ปีจากนี้ กลุ่มสยามพิวรรธน์จึงมีแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และจะมีโครงการที่น่าตื่นตาตื่นใจตามคอนเซปต์  “เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ”  โดยปฏิเสธที่จะทำแต่ศูนย์การค้าเหมือนเคย แต่จะ “สร้างเมือง” ใหม่ในทุกที่ที่ไปลงทุน กับพันธมิตรนับสิบรายที่พร้อมเดินไปกับสยามพิวรรธน์  เป็นโปรเจคยักษ์อีก 2 โครงการในกรุงเทพต่อเนื่องจากไอคอนสยาม แต่เพื่อไม่ให้แผนการลงทุนของเอกชนรายอื่นๆ รวมถึงบริษัทต้องหยุดชะงัก

ผู้บริหารอย่าง ชฎาทิพ จูตระกูล ก็อยากจะเห็นรัฐบาลใหม่ที่สร้างความเชื่อมั่น และมีเสถียรภาพ รู้จักฉกฉวยโอกาสดึงดูดนักลงทุนให้ใช้ไทยเป็นฐานในการอยู่อาศัย และตั้งสำนักงาน เพื่อไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านที่กำล้งเติบโต

26436 e1552384317398 1

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด ประกาศแผนการดำเนินงานใน 5 ปีข้างหน้าว่า เตรียมงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาทไว้ ซึ่งกว่า 90% ของงบนี้ จะเป็นการลงทุน 2 โครงการใหญ่ในกรุงเทพมหานคร

ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาจัดหาที่ดินใน 3 ทำเล เป็นโซนตะวันออก เหนือ และใจกลางกรุงเทพฯ  ซึ่ง 1 โครงการจะประกาศตัวภายในเดือนตุลาคมนี้ เป็นอีกโครงการใหญ่ที่จะร่วมลงทุนกับพันธมิตรกว่า 10 ราย เน้นรูปแบบ “Culture Destination” หรือ การชูประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น และรากเหง้าในย่านนั้นๆให้โดดเด่นเช่นเดียวกับไอคอนสยาม

ที่เหลือ 10-20% ซึ่งเป็นเงินลงทุนไม่มากนัก จะไปลงทุนด้านกิจการค้าปลีก และแฟรนไชส์ รวมถึงการเข้าไปซื้อหุ้นในอาคารสำนักงานทำเลดีย่านชานเมือง อาทิ โซนบางนา พหลโยธิน โดยไม่เกี่ยงขนาด ทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก

“เราจะเลิกลงทุนโครงการที่เป็นศูนย์การค้าอย่างเดียว แต่จะเน้นการพัฒนาเมืองไปพร้อมกัน มีทั้งศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย โดยชูวัฒนธรรมท้องถิ่น เหมือนไอคอนที่มีองค์ประกอบอื่นๆนอกจากศูนย์การค้า แต่ละที่จะใช้ที่ดินไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ ขณะเดียวกันจะไม่ยึดติดแบรนด์ และชื่อของแต่ละโครงการจะแตกต่างกันไป ”

icon
ทรู ไอคอน ฮอลล์

ผุดศูนย์ประชุม-พิพิธภัณฑ์ระดับโลก

สำหรับการพัฒนาต่อเนื่องของไอคอนสยามนั้น ในเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิด “ทรู ไอคอน ฮอลล์” (True Icon Hall)  ศูนย์การประชุมระดับโลก ขนาด 1,200 ตร.ม. จุ 3,000 ที่นั่ง ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมนานาชาติ สนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ ( MICE) และรองรับการจัดแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

นอกจากนี้ยังเปิด “ริเวอร์มิวเซียม แบงคอก” (River Museum Bangkok)  พิพิธภัณฑ์มาตรฐานระดับสากลครั้งแรกของไทย โดยสยามพิวรรธน์ ทำงานร่วมกับพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศกว่า 10 พิพิธภัณฑ์  เพื่อนำผลงานศิลปะล้ำค่าจากต่างประเทศที่คนไทย และคนเอเชียอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนมาจัดแสดง เตรียมเปิดให้เข้าชมในเดือนสิงหาคมนี้ และกำลังพัฒนาโรงแรมริมแม่น้ำฝั่งตรงข้าม โดยมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญรับไปบริหาร 20 ชั้นด้วย

“การที่ไอคอนสยามได้รับการตอบรับที่ดีมากเกินเป้าหมาย ทำให้ร้านค้าต่างๆมีรายได้เกินเป้าตามไปด้วย โดย 80% เป็นลูกค้าคนไทย และ 20%  เป็นต่างชาติ พิสูจน์ถึงศักยภาพ และกำลังซื้อของคนฝั่งธนบุรีได้อย่างดี และไอคอนยังทำให้เศรษฐกิจโดยรวมคึกคัก ทั้งโรงแรมโดยรอบ รวมถึง 13 ชุมชนริมน้ำที่เราเข้าไปร่วมมือ และผู้ประกอบการเรือที่ต่างขยายกิจการเพื่อรองรับลูกค้า ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ถึง 50% ไม่ได้เป็นลูกค้าที่มาจากวันสยามทั้งหมด” 

นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ จะเปิด SIAM PREMIUM OUTLET ในเดือนธันวาคมนี้ เป็นการร่วมทุนกับไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐเป็น LUXURY  PREMIUM OUTLETS ย่านลาดกระบังติดมอเตอร์เวย์ บนพื้นที่ 150 ไร่ และจะเปิดในต่างจังหวัดอีก 2 แห่งภายใน 3 ปีนี้

thumbnail 3 Siam Piwat Simon
ลงนามร่วมทุนกับไซมอน รายใหญ่ค้าปลีกแนวไลฟ์สไตล์โลก

และยังมีโครงการออกไปลงทุนต่างประเทศด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหลังจากที่นักลงทุนเห็นความสำเร็จของไอคอนสยาม ที่มีกลุ่มลูกค้าเข้าออกถึงวันละ 150,000 คน  ทำให้นักลงทุนชวนเราไปลงทุนด้วย ซึ่งเรามองไว้ที่เวียดนาม กัมพูชา และ เมียนมาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา เป็นไปได้ทั้งไปลงทุนร่วมกับพันธมิตรและเป็นที่ปรึกษาโครงการ

สำหรับเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้าของทั้งกลุ่มบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน นางชฎาทิพ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 1-1.5 เท่าจากปีนี้หรือมากกว่า 50,000 ล้านบาท จากปี 2561 มีรายได้ทั้งกลุ่ม 255,000 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนหน้า 23%  ส่วนปี 2562 คาดว่ารายได้จะเติบโตจากปี 2561 อ้ตรา  12-15% ซึ่งกว่า 42% เป็นการเติบโตจากไอคอนสยาม ที่จะมีรายได้เต็มปี ส่วนมูลค่าทรัพย์สินของทั้งกลุ่ม ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท

6 กลยุทธ์สร้างการเติบโต

Siam Piwat Infographic

 

กลยุทธ์ในการเติบโตของบริษัทหลังจากนี้ นางชฎาทิพ ประกาศ 6 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะเป็นทิศทางในการทำให้บริษัทก้าวต่อไป ประกอบด้วย

1.เดินหน้าสร้าง “มหาปรากฎการณ์” ทั้งใน และต่างประเทศ

2.ผนึกกำลัง “พันธมิตรระดับโลก” พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์

3. ลงทุนธุรกิจใหม่ เสริมความแกร่งในธุรกิจหลัก ทั้งธุรกิจอื่น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และขยายธุรกิจค้าปลีก โดยจะร่วมทุนกับบริษัทค้าปลีกชั้นนำจากต่างประเทศเปิดตัวแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์อีก 2 แบรนด์

4.เปิดระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการบริหารจัดการข้อมูล

ปัจจุบันสยามพิวรรธน์ มีฐานข้อมูลลูกค้าแล้ว 7-8 ล้านราย จากลูกค้า “OneSiam”  ทั้งจาก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรรี่ที่มีลูกค้าต่อวันถึง 200,000 – 250,000 ราย รวมถึงความสำเร็จที่เป็นสถานที่หนึ่งเดียวในเอเชีย และวงการค้าปลีกของโลกที่ก้าวขึ้นแท่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของสถานที่ยอดนิยมระดับโลก และ 1 ใน Instagram และอันดับ 6 ใน Facebook  ท้้งหมดจะนำมาพัฒนาฐานข้อมูล เพื่อปรับการบริหารจัดการ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น โดยบริษัทจะเปิดตัวระบบสารสนเทศทางการตลาด (Marketing Intelligence System )ที่พัฒนามากว่า 5 ปีด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท จะใช้อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้

นอกจากนี้ จะขยายช่องทางค้าปลีกไปยังตลาดออนไลน์ โดยนำสินค้าในศูนย์มาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อี-คอมเมิร์ส  และ เอส-คอมเมิร์ส เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าต่างจังหวัด และต่างประเทศ

5 ICONSIAM
ไอคอนสยาม

5.สร้างคุณค่า สมประโยชน์ร่วมกันสู่ความยั่งยืน โดยจับมือผู้ประกอบการทั่วประเทศไปแข่งขันบนเวทีโลก ปั้น Local Heroes ให้เป็น Global Heroes เช่น การเปิดพื้นที่ ICONCRAFT 4,000 ตรม.ในไอคอนสยามเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอี

6.พัฒนา Siam Piwat Academy และสร้าง Next Gen Leader  โดยนำองค์ความรู้ 60  ปีของสยามพิวรรธน์ ในการบริหารศูนย์การค้า และค้าปลีกมาถ่ายทอด เป็นหลักสูตรการบริหารจัดการ โดย 3 ปีที่ผ่านมา ได้ทำงานร่วมกับหลายๆสถาบันแล้ว พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการสอนเกี่ยวกับ Sustainable Shopping Mall Management   จึงจะขยายผลไปยังสถาบันอื่นๆอาทิ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จะปั้นคนรุ่นใหม่เสริมทัพผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปด้วย ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมาได้สร้างหน่วยงาน Think Tank  ทำงานร่วมกับผู้บริหารอย่างใกล้ชิด เพื่อฝึกฝีมืออย่างเข้มข้น

“ในปี 2562 นี้ถือเป็นปีแห่งการฉลองครบ 5 รอบ ของการตั้งสยามพิวรรธน์ และใน 5 ปีถัดไป มุ่งหวังจะเติบโตต่อเนื่อง เป็นผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยเชื่อมั่นว่าวิสัยทัศน์ และจุดยืนที่แตกต่างของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมล้ำสมัยในการดำเนินธุรกิจตลอด 60 ปีของเรา พร้อมกับกลยุทธ์ 6 ด้านที่วางไว้ จะทำให้สยามพิวรรธน์ยืนหยัด และประสบความสำเร็จในวงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ต่อไปอีกทุกยุคทุกสมัย ”

thumbnail 8 Chadatip Chutrakul
ชฎาทิพย์ จูตระกูล

ขอรัฐบาลใหม่ที่มั่นคง-มีเสถียรภาพ

การเติบโตอย่างนี้จะมาสะดุดหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม นี้หรือไม่ นางชฎาทิพ ฝากว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็น Miracle เพราะ ภาคเอกชนไม่น้อย ต่างประกาศลงทุนหลักหมื่นบ้าง หลักแสนล้านบาทบางไม่หยุดมาตลอด ทำให้ประเทศมาไกล และวันนี้ไทยก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนท่ามกลางการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งโอกาสนี้มีไม่นานเพียง 3 ปีเท่านั้น ก่อนที่ประเทศรอบบ้านของเราจะเจริญเติบโตขึ้นทัดเทียม ดังนั้นรัฐบาลที่จะมาใหม่นั้น จะต้องบริหารโอกาสนี้  โอกาสที่นักลงทุนจะมาใช้ชีวิตในเมืองไทย เพราะไทยเป็นประเทศที่จะทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโรงเรียนดีๆจำนวนมาก มีบ้านและคอนโดมิเนียมรองรับ และมีค่าครองชีพต่ำ

“โอกาสนี้ไม่ได้อยู่นานแค่ 3 ปี ดังนั้นรัฐบาลจะต้องมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ ไม่อลวนอลเวง ทุกอย่างจบหลังเลือกตั้ง  และเดินหน้า ให้คนทำมาหากินได้ต่อไปอย่างเต็มที่ และนักลงทุนเชื่อมั่นอยากมาอยู่ อยากมาลงทุน ไม่ใช่มาแค่ 3 หรือ 5 วันแล้วกลับ หากรัฐบาลใหม่ฉกฉวยโอกาสได้สำเร็จ เศรษฐกิจของประเทศก็จะเติบโตต่อไปอย่างแน่นอน  มีการจ้างงานอีกมาก จากการที่นักลงทุนจะเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานเพื่อไปลงทุนในประเทศรอบบ้านของเรา  ก็ถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความตื่นเต้นแห่งยุคที่น่าจับตา” นางชฎาทิพ  กล่าวอย่างมีความหวัง 

Avatar photo