หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์มากประสบการณ์ ประกาศอำลาวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา หลังว่างงานมาตลอด 3 ปีหลังโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษปลดพ้นกุนซือ
กุนซือชาวดัตช์ ใช้เวลาทำงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 2 ปีก่อนจะโดนปลดออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาทำงาน ทั้งๆ ที่นำ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2016 และติดอันดับ 4 กับ 5 ในตารางลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
ช่วงที่ผ่านมา ฟาน กัล เคยมีข่าวได้รับความสนใจจากหลายสโมสรที่อยากดึงตัวไปคุมทีม และเมื่อเร็วๆ นี้เจ้าตัวปฏิเสธโอกาสที่จะรับงานกุมบังเหียน เฟเยนูร์ด ในฤดูกาลหน้า สำหรับตอนนี้ ยอดกุนซือสมองเพชร ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะขอวางมือจากวงการลูกหนังในวัย 67 ปี
“ตอนนี้ผมเป็นคนรับบำเน็ญไปแล้ว ผมไม่มีความทะเยอะทะยานที่จะทำงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค หรือนักวิเคราะห์เกมทางทีวี ภรรยาของผมเสียสละยอมทิ้งงานของเธอเพื่อผมเมื่อ 22 ปีก่อน และคอยติดตามผมเมื่อผมต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ ผมบอกเธอว่าผมจะเลิกเป็นโค้ชตอนผมอายุ 35 ปี แต่มันดันลากยาวมาจนถึงอายุ 65 ปี”
“เธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับผมโดยที่ไม่มีเรื่องฟุตบอลเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเธอมีความสุขมากๆ ผมคิดว่าผมสามารถทำงานในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคได้ แต่ด้วยบทบาทนี้คุณไม่สามารถช่วยเรื่องฝึกซ้อม หรือพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับโค้ช, ผู้บริหาร หรือสื่อได้ ผมไม่คิดว่าผมอยากทำงานแบบนั้น” ฟาน กัล ระบุ
ทั้งนี้ ฟาน กัล ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพเทรนเนอร์มากๆ ในช่วงเวลาที่ทำหน้าที่กุมบังเหียน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, บาร์เซโลน่า, ทีมชาติฮอลแลนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อาแจ็กซ์ นอกจากนี้ตอนคุม บาร์ซ่า ยังได้แชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และแชมป์ลีกกับ “เสือใต้”
