POLITICS-GENERAL

6 องค์กรประกาศเจตนารมณ์ลด ‘บริโภคเกลือ-โซเดียม’ ในไทย

6 องค์กร ประกาศเจตนารมณ์ร่วม ลดบริโภคเกลือ-โซเดียมในประเทศไทย หลังพบคนไทยบริโภคสูงกว่าค่ามาตรฐานองค์กรอนามัยโลก 2 เท่า ตั้งแท่นรณรงค์ “สัปดาห์ลดการบริโภคเค็มโลก” ประจำปี 2562 เน้นสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้ประชาชนตระหนัก เลือกบริโภคอาหารโซเดียมต่ำ 

salt 91539 640

“สัปดาห์ลดการบริโภคเค็มโลก” (World Salt Awareness Week) ระหว่างวันที่ 11-17 มีนาคม 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักแผนภาษี กระทรวงการคลัง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และ เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันประกาศเจตนารมย์เพื่อร่วมลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย

หลังจากองค์การอนามัยโลกได้ออกมาแนะนำ ถึงการลดการบริโภคโซเดียมถือเป็นยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มทุนในการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และไตวาย โดยองค์การอนามัยโลกระบุปริมาณโซเดียมที่ได้รับต่อวันไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม

แต่จากการสำรวจการบริโภคโซเดียมคลอไรด์ของประชากรไทย พบว่า คนไทยบริโภคโซเดียมสูงถึง 4,351.7 มิลลิกรัมต่อวัน สูงกว่าค่าแนะนำถึง 2 เท่า  และจากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 พบว่า คนไทยมีภาวะความดันโลหิตสูงถึง 24.7%

หากบริโภคในปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ จะป้องกันการเสียชีวิตของคนไทยรวมถึงประชากรทั่วโลกได้กว่า 2.5 ล้านคนต่อปี คณะกรรมการนโยบายการลดการบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ  จึงได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2559 – 2568  เป้าหมายให้คนไทยลดการบริโภคโซเดียมลง 30 % ภายในปี 2568 ภายใต้ความร่วมมือเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ภาคอุตสาหกรรม และประชาสังคม

djqtzfwohw08so8kss
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือ และโซเดียมแห่งชาติ ร่วมกันประกาศเจตนารมย์การลดบริโภคเกลือและโซเดียม  เพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จากการได้รับโซเดียมมากเกินความจำเป็น ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มระดับความดันโลหิต นำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง

โดยสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ให้ประชาชนเกิดความตระหนัก สร้างกระแสให้สังคมไทยรู้เท่าทัน และเลือกบริโภคอาหารที่มีโซเดียมต่ำ พัฒนารูปแบบการสื่อสาร และเชิญชวนภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงสูตรอาหาร เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงอาหารที่มีโซเดียมต่ำ

ทั้งนี้จะดำเนินการร่วมกับมาตรการอื่น เช่น มาตรการทางภาษี ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมสูงเกินความจำเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป โจ๊ก/ข้าวต้ม กลุ่มขนมกรุบกรอบ และกลุ่มผงชูรส โดยจัดเก็บภาษีเฉพาะในส่วนปริมาณโซเดียมที่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด

สำหรับแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมากรมควบคุมโรค ได้ขอความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุข 76 จังหวัด และโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่ รวมจำนวน 83 แห่งให้ดำเนินการรณรงค์

ปีนี้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมโรงพยาบาลเค็มน้อย อร่อย (3) ดี ภายใต้แนวคิด ” อาหารโรงพยาบาลเค็มน้อย ดีต่อสุขภาพ ดีลดโรค และอร่อยดี “ โดยประชาสัมพันธ์สร้างความรอบรู้การลดเค็ม ลดโซเดียมแก่ผู้ป่วยและญาติ ให้โภชนากรจัดสูตรอาหารลดโซเดียมลง 15%  สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาในโรงพยาบาล และจัดอบรมผู้ประกอบการร้านอาหารในโรงพยาบาลให้มีการปรับสูตรอาหารต่อไป

Avatar photo