Politics

‘กกต.’ ยันยุบ ‘ไทยรักษาชาติ’ ทำตามกฎหมาย

“จรุงวิทย์” ย้ำสมาชิก “ทษช.” สมัครเข้าพรรคอื่นได้ แต่ถ้าช่วยหาเสียงต้องดูระเบียบให้ดี ยันยุบ “ไทยรักษาชาติ” เป็นไปตามกฎหมาย ชี้โต๊ะจีน “พปชร.” คาดได้ผลสัปดาห์หน้า เผย “7 กกต.” ดูงานต่างประเทศเป็นไปตามอำนาจตรวจเลือกตั้ง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา 2

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ทำให้ต้องมีการถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส. ออกหลายร้อยคน ทั้งในระบบแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงเพิกถอนสิทธิ์ของคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี จำนวน 13 คน

สำหรับสมาชิกพรรคนั้น สามารถไปสมัครสมาชิกพรรคอื่น และเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ แต่ต้องดูในระเบียบของกกต. ด้วย ในส่วนของสำนักงานฯ ได้ยื่นต่อศาลฎีกา เพื่อให้ถอนชื่อบุคคลออกจากบัญชีผู้สมัคร และเริ่มประชาสัมพันธ์ ถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งว่า ทษช. ถูกยุบพรรค

“หากกาเลือกพรรคนี้ก็จะทำให้บัตรเลือกตั้ง กลายเป็นบัตรเสีย โดยการปิดป้ายประกาศรายชื่อ และพรรคออกจากการเป็นผู้สมัครบริเวณหน้าเขต รวมทั้งนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องมีประกาศยุบพรรคนำไปเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา  พร้อมแสดงงบทางการเงินด้วย”พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว

สำหรับที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต. เสนอให้ยุบ ทษช. อย่างรวดเร็วนั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวในวันที่สำนักงาน กกต. เสนอว่าใครถูกเสนอชื่อบ้าง ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็ต้องนำเสนอถึงคณะกรรมการขึ้นไปว่ามีใครบ้าง  และวันนั้นมีหลักฐานครบถ้วน ซึ่งพบว่าหลักฐานปรากฏเชื่อได้ว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงสามารถดำเนินการได้ทันที โดยยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามข้อกฎหมาย

เลขาธิการ กกต. ระบุต่อว่า ส่วนการยื่นยุบพรรคอื่น ๆนั้น สำนักงาน กกต. ต้องตรวจสอบกฎหมายก่อนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะตรวจสอบแล้วเสร็จทั้งหมดเช่นกัน

สำหรับเรื่องการจัดระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีกรณีเดียว คือ รับเงินจากต่างชาติ ซึ่งดูจากรายงานที่พรรคต่างๆ รายงานเข้ามา ตรวจสอบพบว่าโต๊ะจีน มีผู้บริจาคทั้งหมด 84 ราย สำนักงาน กกต. จึงได้ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน พร้อมตรวจสอบนิติบุคคลอีก 40 ราย

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบลงไปอีกว่ามีต่างชาติถือหุ้นเกินกว่า 49% หรือไม่ เพราะบางบริษัทอาจจะมีผลประกอบการที่ไม่สอดคล้องกับการบริจาค หรือลักษณะการอำพรางบัญชี  ทางสำนักงาน กกต. ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งก็คาดว่าสัปดาห์หน้าจึงจะทราบผล

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา

ส่วนประเด็นการเดินทางไปตรวจงานต่างประเทศของคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 คนนั้น เป็นไปตามอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า กกต. จะต้องไปดูความเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งตามอำนาจอยู่แล้ว เมื่อวันเลือกตั้งล่วงหน้ามาถึง โดยเฉพาะนอกราชอาณาจักร กรรมการจึงต้องวางแผนกันไปดูว่าจะไปที่ใดบ้าง โดยงบประมาณใช้ไปตามที่ได้เบิกจ่ายไว้แล้ว และขอเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคม และวันที่ 24 มีนาคม ด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight